“พระเจ้าอยู่หัวหลวง-พระราชินี” เสด็จฯพิธีสวดเจริญมหามงคลรวมศาสนา 3 ธันวาคม 2563 สืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” รวมใจภักดิ์ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ “พ่อแห่งแผ่นดิน” ณ พระลานพระราชวังดุสิต
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม 2563 รัฐบาลได้จัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล และถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระลานพระราชวังดุสิต ในวันพฤหัสบดี ที่ 3 ธันวาคม 2563
วัน 3 ธ.ค.2563 เวลา 18.37 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟฟ้าพระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปในพิธีสวดเจริญมหามงคลรวมศาสนา 3 ธันวาคม 2563 สืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” รวมใจภักดิ์ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ “พ่อแห่งแผ่นดิน” ณ พระลานพระราชวังดุสิต
เมื่อเสด็จฯถึงบริเวณหน้าพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระลานพระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์ฯ เสร็จแล้ว ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาพิธี ณ ที่นั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ข้าราชการและประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกตน้อย) ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงกราบ ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงกราบ
จากนั้นเริ่มพิธีศาสนาพุทธ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาศีล สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม ประธานสงฆ์ถวายศีล จบ พระสงฆ์ 30 รูป สวดมาติกา จบ เจ้าพนักงานภูษามาลาลาด พระภูษาโยง จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าไตรที่อาสน์สงฆ์แถวหน้า 10 รูป ประทับพระราชอาสน์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงทอดผ้าไตรที่อาสน์สงฆ์แถวที่ 2 จำนวน 10 ไตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชรมหาวัชรราชธิดา เสด็จไปทรงทอดผ้าไตรที่อาสน์สงฆ์แถวที่ 3 จำนวน 5 ไตร
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ทอดผ้าไตรที่อาสน์สงฆ์แถวที่ 3 จำนวน 5 ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ 30 รูป เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล เนื่องในพิธีสวดเจริญมหามงคลรวมศาสนา 3 ธันวาคม 2563 บำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล และถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบ
เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม แด่สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม และสมเด็จพระราชาคณะ แล้วทรงยืนประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม แด่พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จนครบ 30 รูป เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
ศาสนาอิสลาม ผู้นำศาสนาอิสลาม จำนวน 30 คน ประกอบพิธีดูอาร์ขอพร นายประสาน ศรีเจริญ ผู้แทนจุฬาราชมนตรี นำกล่าวขอพร (กล่าวดูอาร์) ถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นภาษาอาหรับ ศาสนาคริสต์ ผู้นำศาสนาคริสต์ จำนวน 30 คน ประกอบพิธีอธิษฐานภาวนาขอพร ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พราหมณ์ จำนวน 30 คน สวดถวายพระพร ศาสนาซิกข์ ศาสนาจารย์ จำนวน 30 คน สวดอัรดาสขอพรจากพระศาสดา เสร็จแล้วพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้นำศาสนาอิสลาม, ศาสนาคริสต์, ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ 4 ศาสนา เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงกราบที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้น เสด็จออกจากพลับพลาพิธีประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ก่อนนี้ เวลา 17.55 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นาวาเอก ธรรมรงค์ สุวรรณกูฏ เป็นผู้อัญเชิญพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกตน้อย) จากพระที่นั่งอัมพรสถาน ไปในพิธีสวดเจริญมหามงคลรวมศาสนา 3 ธันวาคม 2563 สืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” รวมใจภักดิ์น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ “พ่อแห่งแผ่นดิน” ณ พระลานพระราชวังดุสิต
พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกตน้อย เป็นพระพุทธรูปลักษณะศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร ขนาดหน้าตักกว้าง ๒๓.๔๐ เซนติเมตร องค์พระสูง ๓๖.๘๐ เซนติเมตร สร้างจากหยกสีเขียวเข้ม ประภามณฑล และฐานเป็นไม้จำหลักปิดทอง ตามประวัติกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริว่า พระราชวังดุสิตเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ สมควรจะมีพระพุทธรูป เพื่อทรงสักการะบูชา เป็นเครื่องเชิดชูพระเกียรติคุณ จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้หาแก้วมรกตขนาดใหญ่ พร้อมช่างฝีมือดี เพื่อสร้างพระพุทธรูป สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงเสาะหาหินหยกสีเขียวได้ในรัสเซีย และโปรดให้นายปีเตอร์ คาร์ล ฟาแบร์เช่ เจ้าของร้านเครื่องทองประจำราชสำนักรัสเซียเป็นผู้สร้าง จนแล้วเสร็จเมื่อปี ๒๔๕๗ จึงอัญเชิญพระพุทธรูปจากประเทศรัสเซียมายังประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร หรือเรียกกันอย่างย่อว่า พระแก้วมรกตน้อย
ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์รวมศาสนา สำหรัพระราชทานแก่ประชาชนที่มาร่วมพิธีด้วย ทั้งพระราชทานอาหารมื้อเย็น เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สูตรถนอมผิว 6 กลิ่น ได้แก่ ซากุระ อัญชัน กล้วยไม้ ทิวลิป กุหลาบ และมะลิ พร้อมบทพระราชทานพร เป็นภาษามคร บนฉลากเจลแอลกอฮอลล์ ความหมายว่า
“ขออานุภาพแห่งพระรัตนตรัย เดชะแห่งเทพทั้งปวง ขอให้โรคโควิดที่เกิดขึ้นในประเทศไทย จงพินาศไป ด้วยบุญญานุภาพแห่งพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าและพระบารมีธรรม 10 ประการ ขอความปลอดโรค และความสุขสวัสดิ์จึงมีแก่ท่านทุกเมื่อเทญ”
พร้อม แก้วน้ำอุ่นไอรัก แผ่นแม่เหล็ก(แมกเนต) ภาพเรือพระที่นั่งสำคัญ พระราชทานให้แก่พสกนิกรที่มาร่วมในพิธี ยังความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และโปรดเกล้าฯให้กองแพทย์หลวงเคลื่อนที่ดูแลสุขภาพประชาชนที่มาร่วมสวดมนต์ด้วย โดยมีประชาชนทุกสาขาอาชีพแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลืองและชุดขาวเดินทางมาร่วมในพิธีสวดเจริญมหามงคลรวมศาสนาฯเพื่อเป็นสิริมงคลชีวิตและประเทศอย่างพร้อมเพรียงกัน
ด้านนางสาวสุชุลี อารีประชา อายุ 66 ปี ประชาชนชาวหนองแขม กล่าวว่า ทุกครั้งที่ทราบข่าวว่าจะมีพิธีสวดมนต์ก็นอนไม่หลับและตนเดินทางมาสวดมนต์ทุกครั้ง รู้สึกว่ามีความสุขมากๆที่ได้มาร่วมในพิธีสวดมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในหลวงรัชการที่ 10 สมเด็จพระพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ให้ทรงพระเจริญ และขอให้บ้านเมืองสงบ และอยากให้คนไทยรักกันเยอะๆอยู่อย่างพอเพียง