รองอธิการบดีธรรมศาสตร์ จี้นายกฯ แก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภา หรือ ลาออก หยุดแอบอ้างสถาบัน ไม่ใช้ความรุนแรงสลายผู้ชุมนุม ทวงสัญญา หลังยึดอำนาจ “ยิ่งลักษณ์” ผ่านไป 6 ปี ยังไม่เห็นความสุขกลับมา
วันที่ 25 ต.ค.63 นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “Prinya Thaewanarumitkul” หัวข้อ “ในฐานะนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ ควรต้องทำสิ่งใด แก้ไขรัฐธรรมนูญ-ยุบสภา-ลาออก เพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง” ระบุว่า
ตามที่นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้มีการ “ถอยคนละก้าว” เพื่อแก้ไขปัญหาการชุมนุมที่กำลังกดดันรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ โดย พลเอก ประยุทธ์ แถลงว่า จะนำข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเข้าสู่การหารือของรัฐสภาในวันที่ 26 ตุลาคม 2563 นั้น เพื่อประโยชน์ในการ “ถอยคนละก้าว” ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ควรต้องเป็นผู้นำในการถอย โและ พลเอก ประยุทธ์ ต้องไม่พูดหรืออ้างในทำนองให้คนเข้าใจว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นแบ็กให้ตนเอง เพราะหลักการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือ The King Can Do No Wrong หรือ พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ แต่อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง
พลเอก ประยุทธ์ คงไม่ลืมไปแล้วว่า ท่านเป็น ผบ.ทบ.ในขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกประท้วงให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และท่านได้ยึดอำนาจ ซึ่งทำให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีมาจนถึงทุกวันนี้ ในวันนั้นท่านสัญญากับประชาชนไว้ว่า ขอเวลาอีกไม่นานความสุขจะคืนมา บัดนี้เวลาผ่านไป 6 ปีแล้ว เราก็ยังไม่เห็น “ความสุขที่กลับคืนมา” นอกจากรัฐธรรมนูญที่สืบทอดอำนาจ การตรวจสอบถ่วงดุลที่แย่ลง ความขัดแย้งในสังคมในเรื่องสถาบัน และการกลับมามีการประท้วงขับไล่นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยที่วันนี้ท่านเป็นผู้ถูกประท้วงเอง ระยะเวลา 6 ปีนั้นยาวนานกว่าอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และแม้กระทั่งอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ไปแล้ว
ท้ายที่สุดนี้เรื่องสำคัญที่เป็นเรื่องเฉพาะหน้า คือ รัฐบาลต้องไม่ใช้ความรุนแรงและไม่ใช้วิธีการสลายการชุมนุมอีก หากการชุมนุมเป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการต่อต้านดังเช่นที่เกิดหลังจากการสลายการชุมนุมที่ปทุมวัน ในวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ที่สำคัญคือ รัฐบาลต้องมองว่าผู้ชุมนุมเพียงแค่มาทวงสัญญาที่ พลเอก ประยุทธ์ ได้สัญญาไว้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
ความรุนแรงจะไม่เกิดถ้าไม่มีฝ่ายใดเริ่มก่อน ในฐานะที่ประเทศไทยมีบทเรียนเรื่องการนองเลือดมามากแล้ว เราไม่ควรเกิดเหตุการณ์รุนแรงอีก ซึ่งเราสามารถทำได้โดยใช้กระบวนการประชาธิปไตยในการแก้ไขปัญหา รับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน และเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เราก็จะสามารถผ่านวิกฤตการณ์ และแก้ปัญหาการเมือง และแก้ไขรัฐธรรมนูญได้โดยไม่เกิดเหตุการณ์นองเลือดอีก