กระทรวงคลัง แจ้งให้ปชช. ที่สมัครใช้บริการ โครงการ “คนละครึ่ง” เตรียมตัวจับจ่ายสินค้าได้แล้ว เช่นเดียวกับ มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” เริ่มใช้จ่ายวันแรกในวันที่ 23 ต.ค. 63 นี้
วันที่ 22 ต.ค.63 นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการคนละครึ่งมีความพร้อมในการรองรับระบบการใช้จ่ายของประชาชนที่จะเริ่มใช้จ่ายวันแรกในวันที่ 23 ต.ค. 2563 เป็นต้นไป ล่าสุดมีประชาชนลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com แล้วจำนวน 6,733,557 คน ในจำนวนนี้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบซึ่งได้รับสิทธิใช้จ่ายตามโครงการจำนวน 6,402,927 คน ยังคงเหลือสิทธิให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อีกกว่า 3 ล้านคน
ประชาชนที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ขอให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย จากนั้นเติมเงินจำนวนเท่าใดก็ได้ตามต้องการเข้าไปในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ก็จะสามารถใช้สิทธิซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการร้านค้าที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ทันที ระหว่างวันที่ 23 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2563 ในช่วงเวลา 06.00 น. – 23.00 น. โดยสำหรับการใช้จ่ายแต่ละครั้งรัฐจะร่วมจ่ายครึ่งหนึ่ง แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน และไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ เช่น
การใช้จ่ายในครั้งแรกหากท่านต้องการจ่ายค่าอาหาร 200 บาทท่านต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” อย่างน้อย 100 บาท เพื่อสแกนจ่ายเงินกับร้านค้า “ถุงเงิน” และรัฐจะร่วมจ่ายให้ร้านค้าอีก 100 บาท ซึ่งท่านจะเหลือวงเงินร่วมจ่ายจากรัฐ 2,900 บาท หรือหากท่านจะใช้จ่ายค่าสินค้าจำนวน 400 บาท ท่านต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” อย่างน้อย 250 บาท รัฐจะร่วมจ่ายให้ร้านค้า 150 บาท และท่านจะเหลือวงเงินร่วมจ่ายจากรัฐ 2,850 บาท
สำหรับร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบเข้าร่วมโครงการและมีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว ขอให้อัพเดทแอปพลิเคชันให้เป็นปัจจุบันและกดปุ่มยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขโครงการผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวก่อนด้วย เพื่อให้พร้อมรับการสแกนจ่ายเงินด้วยแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ของประชาชนได้อย่างราบรื่น โดยขณะนี้มีร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 300,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ซึ่งประชาชนสามารถสังเกตร้านค้าดังกล่าวจากสัญลักษณ์โครงการคนละครึ่งที่หน้าร้านค้า หรือค้นหารายชื่อและที่ตั้งร้านค้าได้จากเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com อีกทางหนึ่ง
รองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการช้อปดีมีคืน ให้ประชาชนนำรายจ่ายซื้อสินค้ากับร้านที่อยู่ในระบบภาษีมาหักลดหย่อนภาษีได้ 3 หมื่นบาท ก็เริ่มมีผลตั้งแต่ 23 ต.ค.-31ธ.ค. 2563 เช่นกัน ซึ่งประชาชนต้องเลือกใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง หรือโครงการช้อปดีมีคืน โครงการใดโครงการหนึ่งเท่านั้น