รมว.กระทรวงดิจิทัลฯ ประกาศกร้าว จะตรวจสอบ ทุกสื่อ ทุกแพลตฟอร์ม ในโลกโซเชียลอย่างเข้มข้น กำชับ ไม่ให้มีการเผยแพร่เนื้อหาที่ผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลั่นถ้าพบต้องลบข้อความทันที และหากยังพบอีก จะถือว่ามีความผิด ต้องดำเนินการตามกฎหมายทันที
วันที่ 21 ต.ค.63 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณี คำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ 11/2563 เรื่องระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 รวมถึง IP Address แอปพลิเคชันเทเลแกรม (Telegram) ด้วย ว่า
เรื่องนี้ ทางกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีคำสั่งมาถึง กระทรวงดิจิทัลฯ และ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคแห่งชาติ (กสทช.) ให้ดูแลควบคุมสื่อออนไลน์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้ง Facebook, Twitter, Instagram, รวมถึงสำนักข่าวที่เป็นสื่อ ทั้งออนไลน์และทีวีดิจิทัลทั้งหมด หากมีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีข้อความยุยง ปลุกปั่น หมิ่นสถาบันหลักของชาติ ขอให้เจ้าหน้าที่แจ้งไปยังผู้ที่โพสต์ หรือ เจ้าของสื่อออนไลน์ที่เผยแพร่เนื้อหาดังกล่าว ให้ทำการลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งแอปพลิเคชันเทเลแกรมเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มใหม่ที่ต้องขอความร่วมมือเหมือนแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่นกัน ซึ่งขณะนี้ ก็พบว่าแอปพลิเคชันเทเลแกรมก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต(ISP) และ ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกราย รวมถึงการใช้แอปพลิเคชันเทเลแกรม (Telegram) หากพบว่ามีการโพสต์เนื้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินในแพลตฟอร์มใด ถือว่ามีความผิด ให้ทำการลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ทันที โดยเจ้าหน้าที่จะคอยตรวจสอบติดตามการกระทำความผิด หากพบเนื้อหา ภาพ หรือ การเผยแพร่ที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายทันที