“จตุพร” ลั่น หมดเวลา “พล.อ.ประยุทธ์” แล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้คือ ต้องลาออก และ ไม่ต้องถามว่า ทำอะไรผิด ชี้ รธน.แก้ได้ทันที ถ้าไม่มี “ลุงตู่” พร้อมย้อนอดีต ชุมนุม ปี 53 มีการใช้กระสุนจริง แดงพลีชีพนับร้อยศพ ประกาศปกป้อง ถ้าม็อบถูกทำร้าย จะนำมวลชนปกป้องทันที
18 ต.ค. 63 ที่ สถานีโทรทัศน์พีซทีวีแห่งใหม่ ซอยนวลจันทร์ รามอินทรา 40 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการลมหายใจ พีซทีวี ว่า หัวข้อที่จะสนทนาวันนี้คือ หัวข้อที่ว่าหมดเวลา สถานการณ์ทางการเมืองรอบนี้ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย เชื่อว่าซีกรัฐบาล ฝ่ายผู้มีอำนาจรวมทั้งประชาชนอย่างเราๆ หลายเรื่องก็ไม่เหมือนสมัยยุคเรา ความเป็นจริงการปฏิบัติการโดยการใช้กำลังในวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมาบริเวณแยกปทุมวันนั้น ฝ่ายผู้มีอำนาจซึ่งเป็นคณะเดียวกับที่มีการปฏิบัติการกับคนเสื้อแดงในปี 2552 และ 2553 มีการใช้อาวุธปืนทราโว่ ปืนกลความเร็วสูง สไนเปอร์ ยิงกันเป็นแสนๆ นัด คนกลุ่มหนึ่งในเวลานั้น ก็บอกว่าสมควรตาย ไม่มีความรุนแรง
แต่ในทางกลับกันการใช้รถฉีดน้ำซึ่งมีอานุภาพในการฉีดและก็เป็นการใช้น้ำที่ใส่สารเคมีนั้น คนที่มีอำนาจในการสั่งการคงคิดว่าวิธีนี้จะเบาที่สุด เมื่อเทียบกับตอนที่ปฏิบัติการกับคนเสื้อแดงโดยเฉพาะในปี 53 ที่ตายร่วมร้อย แต่ในทางกลับกันการใช้ความรุนแรงกับเยาวชนคนหนุ่มสาวและเด็กนั้นผลลัพธ์มันกลายเป็นคนละเรื่องกับการจัดการกับคนเสื้อแดง แต่กับเด็กนั้นฉีดน้ำสลาย รวมถึงใช้ตำรวจกระชับพื้นที่ ความรุนแรงทางความรู้สึกจะกลายเป็นคนละเรื่อง แม้แต่ผู้มีอำนาจในปัจจุบันก็คิดไม่ถึง
ขณะเดียวกันก็สอดคล้องกับก่อนจะมีการปฏิบัติการ โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า อย่ามาท้าทายกับมัจจุราช ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรพูด เพราะที่พูดมาคือต้องการจะสื่อความหมายว่าอย่างไร อีกทั้งจะกลายเป็นการสร้างความเข้าใจผิดมากยิ่งขึ้นเพราะการขู่นั้นไม่มีผลใดๆ หากขู่แล้วมีผล คนก็ไม่เต็มแยกปทุมวัน หรือ เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) หลังจากการสลายการชุมนุม คนก็แยกจุดมากยิ่งขึ้นและปริมาณมากยิ่งขึ้น และทุกจุดเกิน 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นเด็กเป็นเยาวชน วันนี้ก็เช่นเดียวกัน มีการนัดหมายชุมนุมใน เวลา15:00 น. ไปประจำสถานีรถไฟฟ้า ขณะเดียวกันรัฐก็ใช้วิธีการเดิมทยอยปิดสถานีรถไฟฟ้า จากนั้นอีกไม่นานก็จะมีการประกาศจุดนัดหมายแล้วคนก็จะไปเต็มที่นั่น
“ผมเคยพูดแล้วว่าทางออกทางเดียวของประเทศไทย คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกไปเท่านั้น เพราะพล.อ.ประยุทธ์ออกไปก็จบทุกอย่าง วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ถามว่าผิดอะไร ผมก็บอกว่าผิดตั้งแต่เข้ามาแล้ว ดังนั้นควรจะทำที่ถูกต้องสิ่งเดียวคือตัดสินใจลาออก และอย่าไปสนใจว่าหลังจากตัวเองลาออกแล้วอะไรจะเกิดขึ้น เพราะนั่นไม่ใช่หน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ แต่หน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำถูกสิ่งเดียวให้กับแผ่นดินคือตัดสินใจลาออก หรือ ยุบสภา ขณะเดียวกันการแก้ไขรัฐธรรมนูญหากไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะแก้ไขได้ง่ายขึ้นเหมือนตัวอย่างในปี 35 ที่สุดท้ายแล้วแก้ไขได้ในวันเดียว”
นายจตุพร กล่าว และว่า อีกทั้งสถานการณ์ของประเทศในวันนี้ ตนบอกได้เลยว่าย่ำแย่มากแสนสาหัส ขนาดรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาประเทศได้ยังไม่สามารถอยู่ได้ วันนี้หาก พล.อ.ประยุทธ์ นึกถึงตอนที่เคยถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นว่า ยังไหวหรือไม่ เพราะวันนี้สภาพพล.อ.ประยุทธ์หนักกว่าอย่างมาก ดังนั้นวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ประยุทธ์จะต้องแสดงความรับผิดชอบ
ประธาน นปช. กล่าวด้วยว่า การชุมนุมยุคนี้ไม่ต้องปราศรัย ต่างคนต่างมา และ ส่งเสียงให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออก เพราะฉะนั้นนี่เป็นสูตรใหม่ของประเทศไทย และไม่ใช่ฮ่องกงโมเดล เพราะหากอธิบายฮ่องกงโมเดล เดี๋ยวรัฐบาลจะคิดแบบจีนแผ่นดินใหญ่ จะส่งกำลังทหารเข้าไปจัดการกวาดต้อน ดังนั้นเป็นคนละเรื่อง เพราะทันทีที่รัฐบาลใช้ความรุนแรง กับเยาวชนคนหนุ่มสาวเหมือนกับการปฏิบัติการเสื้อแดง รุ่นพ่อ รุ่นแม่ของนักเรียนนักศึกษาจะออกมา รวมทั้งตัวเองก็จะออกมาร่วมต่อสู้ด้วยแน่นอน