สื่อนอก ตีข่าว! ไทย ประกาศ พรก.ฉุกเฉินร้ายแรง ทูตสหรัฐฯ ออกคำเตือน ปชช.

สื่อต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์ชุมนุมของไทย พร้อมตีข่าว รบ. ประกาศพรก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมมวลชน หลัง เกิดเหตุการณ์ ม็อบ ชู3นิ้ว ขวาง ขบวนเสด็จของ พระราชินี ขณะที่ สถานทูตสหรัฐ ออกประกาศเตือน ชาวอเมริกันในไทย

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้( 15 ต.ค.63) ว่า นายกรัฐมนตรีไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกคำสั่งวันพฤหัสบดี(15)ให้บังคับใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรงภายในเขตกรุงเทพฯ เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่ตำรวจเข้าจับกุมแกนนำม็อบคณะราษฎรไม่ต่ำกว่า 20 คน ซึ่งรวมไปถึง เพนกวิน หรือ พริษฐ์ ชิวารักษ์ ทนายความกลุ่มสิทธิมนุษยชน อุธาโรจน์ ภาณุพงศ์ จาดนอก และรุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ตัวแทนนักศึกษาจากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่งมีวิดีโอคลิปภาพการควบคุมตัวรุ้งภายในโรงแรมที่กรุงเทพฯ โดยเธอประกาศว่า “ถ้าไม่ยอมปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ จากข้อเสนอ 10 ข้อจะเหลือข้อเดียว” ซึ่งการจับกุมเกิดขึ้นหลังไทยใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรง

เอเอฟพีรายงานภาพการนำตัวรุ้งออกมาในสภาพเธออยู่ในเสื้อสีส้มและกางเกงสีน้ำตาลนั่งอยู่ในรถวีลแชร์ชู 3 นิ้ว

การออกคำสั่งใช้สถานการณ์ฉุกเฉินเอเอฟพีชี้ว่า เกิดขึ้น 1 วันหลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงคณะราษฎรได้ขวางขบวนเสด็จพระราชินีและพระองค์ทีในวันพุธ(14) หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านชู 3 นิ้วเป็นสัญลัษณ์พร้อมกับตะโกนถ้อยคำจาบจ้วง “ภาษีของผม”

นิวยอร์กไทม์สรายงานต่อว่า ในช่วงค่ำวันพุธ(14) โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่านายกฯได้ออกคำสั่งกำชับตำรวจให้จัดการทันทีกับพวกขวางขบวนเสด็จรวมไปถึงพวกที่แสดงพฤติกรรมหมิ่นฯออกมาให้เห็น

เดอะการ์เดียนรายงานว่า ในแถลงการณ์ของรัฐบาลไทยที่ประกาศใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรง “มันเป็นความจำเป็นอย่างมากในการที่ต้องบังคับใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อทำให้สถานการณ์นี้ยุติโดยทันทีเพื่อรักษาความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อย”

ด้านกลุ่มฮิวแมนไรท์วอชได้ออกมาแสดงความเห็นต่อคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินของไทย โดย ฟิล โรเบิร์ตสัน(Phil Robertson)ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มฮิวแมนไรท์วอชประจำแผนกเอเชียกล่าวว่า “สิทธิของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและสิทธิการรวมตัวในที่สาธารณะอย่างสงบในเวลานี้อยู่บนเขียงจากการที่รัฐบาลแสดงให้เห็นธาตุแท้ของความเป็นพวกเผด็จการ”

ขณะที่กลุ่มนิรโทษสากลออกแถลงการณ์มีใจความว่า การชุมนุม(ของม็อบปลดแอก)ที่ผ่านมานั้นเต็มไปด้วยความสงบ และการจับกุมแสดงให้เห็นถึงอย่างชัดเจนเพื่อต้องการปราบปรามการประท้วง และเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้กลุ่มที่มีแนวคิดเห็นด้วยกับผู้ประท้วง

ขณะเดียวกัน บนเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้ออกคำเตือนไปยังพลเมืองของตัวเองที่อยู่ในไทยให้ใช้ความระมัดระวัง

โดยในคำเตือนที่ลงวันที่ 15 ต.ค กล่าวว่าขอแจ้งให้กับพลเมืองสหรัฐฯถึงกำหนดการชุมนุมทางการเมืองที่จะมีขึ้นในวันนี้(15) เวลา 16.00 น. ที่บริเวณแยกถนนราชประสงค์ใกล้กับศาลพระพรหมเอราวัลและห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตประทุมวัน กรุงเทพฯ

แถลงการณ์ระบุว่า ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯหลีกเลี่ยงบริเวณดังกล่าว

สถานทูตสหรัฐฯยังแจ้งถึงการประกาศใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรง ที่มีการสั่งห้ามการรวมตัวมากกว่า 5 คนขึ้นไป และชี้ต่อว่า รายงานที่ออกมาคาดว่าการชุมนุมทางการเมืองดังกล่าวอาจรวมไปถึงกลุ่มคนขนาดใหญ่ของผู้เข้าชุมนุม และตำรวจไทยมีแผนที่จะไปที่นั่ง ซึ่งอาจมีการตั้งด่านตรวจรอบๆบริเวณ และอาจส่งผลกระทบต่อการจราจรทำให้เกิดการติดขัดขึ้นย่านดาวน์ทาวน์ของกรุงเทพฯ และอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการประท้วงเพิ่มขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้า

แถลงการณ์เตือนสถานทูตสหรัฐฯกล่าวว่า ถึงแม้จะมีการคาดว่า จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่แม้ว่าการประท้วงที่มีความมุ่งหมายในความสงบอาจมีการเผชิญหน้าเกิดขึ้นและยกระดับไปสู่ความรุนแรง

ทางสถานทูตขอให้พลเมืองสหรัฐฯหลีกเลี่ยงบริเวณการประท้วงและตั้งอยู่ในความระมัดระวัง รวมไปถึงขอให้หมั่นเฝ้าติดตามการรายงานข่าวของไทยและโซเชียลมีเดียก่อนเดินทางเข้าไปย่านใจกลางกรุงเทพฯในสุดสัปดาห์นี้

เอเอฟพีรายงานล่าสุดว่า ถึงแม้จะมีการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินแต่ทว่ามี กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคนรวมตัวในกรุงเทพฯเรียกร้องตำรวจให้ปล่อยตัวแกนนำ “ปล่อยเพื่อนของพวกเราให้เป็นอิสระ” กลุ่มผู้ประท้วงตะโกนพร้อมชู 3 นิ้วสัญลักษณ์ของม็อบ