รมว.สาธารณสุข ระบุ จะไม่ลดเวลากักตัวโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมย้ำต้องยึดมาตรการความปลอดภัยเป็นหลัก ขณะเดียวกันพร้อมช่วยเหลือเมียนมาร์ แต่ต้องไม่กระทบความปลอดภัยคนไทย และ ต้องมีการร้องขออย่างเป็นทางการด้วย
วันที่ 28 ก.ย.63 ที่ กระทรวงสาธาณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข กล่าวถึงข้อเสนอเรื่องลดระยะเวลาการกักตัว 14 วัน ในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ว่า
มีการหารือเรื่องนี้ ทั้งในที่ประชุมของกระทรวงสาธารณสุข และในที่ประชุมของ ศบค.แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ อยู่ระหว่างประเมินผลประสิทธิภาพการทดสอบหาเชื้อแบบใหม่ ซึ่งทดลองกับ กลุ่มตัวอย่างหลัก 100 คนไปแล้ว ได้ผลลัพท์ น่าพอใจ
แต่เพื่อความมั่นใจสมควรต้องทดลองเพิ่มไปเป็นหลักพันคน หรือจนกว่าจะมั่นใจว่าวิธีการนี้ได้ผลเชื่อถือได้ 100% ซึ่งปัจจุบันนี้ ประเทศไทย ใช้วิธี RT-PCR ถือว่าดีมาก ทั้งนี้ วิธีการที่กำลังอยู่ระหว่างศึกษา เป็นการตรวจเลือด และได้ให้นโยบายไว้คือ ต้องทำทุกอย่างให้เป็นประโยชน์ ถ้าสามารถลดระยะเวลาการกักตัวเหลือน้อยกว่า 14 วันได้ โดยที่ไม่กระทบเทือนเรื่องความปลอดภัย นับเป็นเรื่องดี เพราะจะช่วยลดงบประมาณได้มาก
อย่างไรก็ตามได้หารือถึงการคลายล็อกเพิ่มเติม ไปจนถึงค่อยๆ เปิดประเทศ เพื่อการท่องเที่ยว และทำธุรกิจ ซึ่งนักท่องเที่ยวจากประเทศที่จะได้เข้ามา ก็ต้องดูที่ความสามารถในการควบคุมโรคระบาดของประเทศนั้นๆด้วย หากไม่พบผู้ติดเชื้อ ย่อมมีโอกาสเข้ามาในประเทศไทย มากกว่า ประเทศที่ยังพบการระบาดอยู่ แต่ที่สำคัญ เมื่อถึงวันนั้น นักท่องเที่ยว หรือ นักธุรกิจ ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด บอกให้ใส่หน้ากาก ก็ต้องใส่หน้ากาก
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือด้านสาธารณสุขกับประเทศเมียนมาร์ ซึ่งกำลังประสบปัญหากับการควบคุมโควิด-19 ว่า ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปหาข้อมูลแล้วว่า ประเทศไทยสามารถช่วยอะไรได้บ้าง แต่ที่สำคัญต้องไม่กระทบกับความปลอดภัยของคนไทยที่อยู่ตามแนวชายแดนด้วย อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีการร้องขอจากทางเมียนมาร์เท่านั้น เพราะต้องคำนึงถึงเรื่องการทูตด้วย