นายกฯ ยัน โครงการจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” เป็น ยุทธศาสตร์ของ กองทัพ โยน กมธ.พิจารณารายจ่ายปี64 ตัดสินใจ เตือน ปชป.และ พรรคร่วม ถ้าโครงการโดนคว่ำ ทุกคนต้องร่วมกัน รับผิดชอบ และอย่านำไปขยายปม สร้างความขัดแย้งการเมือง
วันที่ 26 ส.ค.63 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะให้กรรมาธิการเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 7 คน ของพรรคลงมติไม่เห็นชอบให้จัดซื้อเรือดำน้ำในคณะชั้นกรรมาธิการฯ ว่า นึกอยู่แล้วว่าสื่อต้องถามเรื่องเรือดำน้ำ เป็นเรื่องของกรรมาธิการที่อยู่ระหว่างการพิจารณา
ส่วนกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นต่างในจัดการซื้อนั้น ไม่รู้ เป็นเรื่องของพรรคที่จะว่ากันไป แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการฯจะว่าอย่างไร ซึ่งมีหลายพรรคร่วมอยู่ สิ่งสำคัญสุดได้อธิบายไปหมดแล้วถึงความจำเป็น หลักการและเหตุผล งบประมาณที่จัดซื้อก็เป็นของกองทัพเรือ และเราได้แก้ปัญหาปี 63 ไว้แล้วส่วนหนึ่ง ฉะนั้น โครงการอะไรก็ตามที่เป็นโครงการต่อเนื่อง มีความจำเป็นหรือไม่ จำเป็นอย่างไร จะได้หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการฯที่จะพิจารณา
“แต่ในความรู้สึกส่วนตัวผมคิดว่าอะไรก็ตามที่จะต้องสร้างความมั่นคงปลอดภัยของพวกเรา ตรงนี้ไม่ใช่เพื่อใครทั้งสิ้น แต่เพื่อประเทศไทยและคนไทย ทรัพยากรของชาติ ของแผ่นดิน จะทำอย่างไร และโลกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด ความขัดแย้งอะไรต่างๆ มีเยอะหรือไม่ ไม่ได้มีไว้ไปรบหรือสู้กับใคร แต่เป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ คงเข้าใจกันว่ามันเป็นอย่างไร ข้อสำคัญ งบประมาณเป็นของกองทัพเรือ เป็นงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ฉะนั้น สุดแล้วแต่กรรมาธิการฯจะพิจารณาออกมาอย่างไร วันหน้าทุกคนก็ต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งหมด หากเกิดอะไรขึ้น คงไม่ใช่เฉพาะผมคนเดียว เป็นเรื่องมติของคนหลายคน หลายพรรคด้วยกัน ก็สุดแล้วแต่”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปด้วยดี อย่ายกเรื่องนี้มาเป็นประเด็น เป็นเรื่องภายในที่จะต้องบริหารกันเองให้ได้ พรรคร่วมรัฐบาลต้องคุยกัน ก็สุดแล้วแต่ ตนไม่พูดตรงนี้ โอเคนะ