“สิระ” ประกาศ ตั้งรางวัล1แสน ให้คนมีคลิปแฉส.ส.ตบทรัพย์ ลั่น ขอเป็น “แบคอัพ” ให้ข้าราชการเปิดข้อมูลโดยไม่ต้องเกรงกลัว เล็งงัด พ.ร.บ.คำสั่งเรียก “ธานี อ่อนละเอียด” แจงคดีบอส ขณะเดียวกันจะดึงรายงานปรองดองเสนอนิรโทษกลับมาแก้ไขหลัง ดีเดย์ถก สภาวันนี้
13 ส.ค.2563 นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการฯจะหยิบยกเรื่องกระแสข่าวการเรียกรับเงินของ ส.ส.ในชั้นการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2564 ขึ้นมาพิจารณาเนื่องจากเกี่ยวข้องกับกฎหมาย มีทั้งตบทรัพย์ และ เรียกรับเงินเพื่อศึกษาวิธีป้องกันและทำความจริงให้กระจ่าง ว่า มี ส.ส. ไปตบทรัพย์จริงหรือไม่ พร้อมตั้งเงินรางวัล 100,000 บาท ให้แก่ผู้ที่มีคลิปวีดีโอยืนยันกระบวนการตบทรัพย์
“ที่ผ่านมา ส.ส.พยายามแย่งเข้าไปเป็นกรรมาธิการ ที่อาจมีผลประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ มีการตบทรัพย์จริงหรือไม่ ผมจึงคิดว่าถ้ามีคลิปในการตบทรัพย์ ส.ส. ผมให้คลิปละ 1 แสนบาท ฝากถึงข้าราชการไม่ต้องเกรงกลัว ท่านต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติเงินภาษีประชาชน ท่านเป็นข้าราชการ ผมจะอยู่ข้างหลังเป็นแบคอัพให้ ”นายสิระ กล่าว
ส่วนวันนี้ (13 ส.ค.63) ที่กรรมาธิการฯเชิญ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด มาชี้แจงนั้นนายสิระ กล่าวว่า จะสอบถามเรื่องของการใช้ดุลยพินิจในการสั่งไม่ฟ้องคดีบอส วรยุทธ อยู่วิทยา ว่าใช้สำนวนพยานหลักฐาน หรือความรู้สึกตัวเอง อย่างไรก็ตามหากวันนี้ (13ส.ค.) หากนายธานี อ่อนละเอียด ส.ว. ในฐานะอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ไม่มาชี้แจงตามที่มีหนังสือเชิญไปก็จะใช้อำนาจตามพ.ร.บ.คำสั่งเรียก
นายสิระ ยังยืนยันว่า แม้กรรมาธิการฯ จะหยิบยกเรื่องที่เป็นประเด็นในสังคมขึ้นพิจารณาหลายเรื่อง แต่ทุกเรื่องมีความคืบหน้าและเกี่ยวข้องกับกรรมาธิการฯ เพราะเป็นเรื่องของกฎมาย และหากคณะกรรมาธิการใดที่เกี่ยวข้องแล้วไม่ดำเนินการ ตนขอทำ เพราะกล้าที่จะเอาคนที่มีความผิด ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหรือฝ่ายค้านมาลงโทษ ให้ประชาชนรู้ว่าคนที่เลือกมาทำดีหรือไม่
นายสิระ ยังกล่าวถึงกรณีที่กรรมาธิการเตรียมเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณารายงานศึกษาเรื่องแนวทางการสร้างความปรองดอง ที่มีการเสนอให้นิรโทษกรรมเพื่อขจัดปัญหาความขัดแย้งตั้งแต่ 2548 ว่าอาจจะใช้อำนาจประธานกรรมาธิการฯ ดึงเรื่องกลับ เนื่องจากมีบางถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดความแตกแยกจึงต้องนำเรื่องไปแก้ไขก่อน แต่ขณะนี้กำลังหารือกรรมาธิการท่านอื่นอีกครั้ง