ภท.จัดประชุมใหญ่ เลือก กก.บห.ชุดใหม่ เทคะแนนให้ “อนุทิน” นั่งเก้าอี้อีกสมัย โดยมี “ศักดิ์สยาม” เป็นเลขาฯพรรค ชู นโยบาย ทลายทุกข้อจำกัด เพื่อปากท้องประชาชน ดัน”กัญชา” ปลูกเสรี เพื่อการแพทย์ และ รับฟัง พลังมวลชน ร่วมแก้รธน.
วันที่ 25 ก.ค.63 ที่ อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 และเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยมี กรรมการบริหารพรรค สส.ภท. ตัสแทนสาขา และ สมาชิก เข้าประชุมจำนวนมาก ภายใต้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังคงได้รับความไว้วางใจให้ ดำรงตำแหน่งหน.พรรคอีกสมัย ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ประกอบด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียน นางนาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรค รองหัวหน้าพรรค 4 ตำแหน่ง นายทรงศักดิ์ ทองศรี, นายบุญลือ ประเสริฐโสภา, นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร และ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ โดยมี น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ นายรังสิกร ทิมาตฤกะเป็นรองเลขาธฺการ และ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม , นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เป็น กก.บริหารพรรค
โอกาสนี้ นายอนุทิน กล่าวต้อนรับสมาชิกพรรค และสรุปผลงานในรอบปีที่ผ่านมาว่า ยินดีต้อนรับทุกคน โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ แจ้งต่อ กก.บห.ว่า จะต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกทั่วประเทศมาประชุมกันให้มากที่สุด จึงต้องมาใช้สถานที่ ภายในอาคารนิมิตรบุตร เพราะห้องประชุมที่ พรรคไม่พอรองรับจำนวนสมาชิกกว่า 1,400 คน เพื่อแสดงพลังแห่งภูมิใจไทยในวันนี้ พรรคภท. ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมานานกว่า 10 ปี เรากำลังจะก้าวสู่การเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน การเลือกตั้งที่ผ่านมา เราส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ครบ 350 เขต และ บัญชีรายชื่อ 150 คน ได้คะแนนเลือกทั่วประเทศ 3 ล้าน 7 แสน คะแนน มี สส.เป็นลำดับที่ 3 จำนวน 61 คน มี รัฐมนตรี 7 คน
นายอนุทิน ระบุว่า เป็นความจริงที่ทุกคนต้องยอมรับ การดำรงอยู่ของรัฐบาลนี้ จะขาดพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ และต่อจากนี้ไป ไม่ว่าใครจะจัดตั้งรัฐบาล ก็จะต้องอยากได้พรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมป็นส่วนหนึ่ง เพราะเราเป็นพรรคที่มีเอกภาพ ความเข้มแข็ง และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่างเหนียวแน่น และมีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน คือ เพื่อปากท้องประชาชน เป็นพรรคการเมืองเชิงปฏิบัติการ เรามีเอกลักษณ์ หรือ อัตลักษณ์ คือ พูดไม่เก่ง ทำงานเป็น ไม่พูดมาก ทำงานหนัก อาจจะพูดไม่เพราะ แต่เราพูดจริง และ เมื่อพูดแล้วต้องทำ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอุปสรรคอะไร ต้องทำให้บรรลุเป้าหมายคือ ความกินดีอยู่ดีของประชาชน ที่สำคัญ เราต้องสามารถ ทลายทุกข้อจำกัด ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน เพื่อปากท้องประชาชน คือสิ่งที่เราได้พูดไว้กับประชาชน และเป็นเป้าหมายการทำงานของพรรคภูมิใจไทย
นโยบายที่สำคัญ คือ กัญชาทางการแพทย์ ได้ดำเนินแล้ว และ จะทำต่อไป เราเปิดคลีนิคกัญชาไปแล้วเกือบ 200 แห่ง กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ กฎกระทรวง กำลังจะออกมา อนุญาต ให้ ปลูกกัญชา บ้านละ 6 ต้น โดยจะเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อนำเสนอเข้าสภาฯ ในฐานะร่างกฎหมายของรัฐบาล เชื่อว่าสภาผู้แทนราษฎร จะให้ความเห็นชอบ
เช่นเดียวกับ กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการ รักษาประโยชน์ของประเทศชาติ สร้างความสะดวกสบาย ลดค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน รวมถึงการเจรจาค่าโง่ทางด่วน ให้รัฐเสียหายน้อยที่สุด และประชาชนได้รับประโยชน์ขึ้นทางด่วนฟรี ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ การปรับปรุงถนนสายหลัก สายรองในจังหวัดต่างๆ การใช้ยางพารามาทำวัสดุป้องกันและลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุบนถนน ได้ประโยชน์ทั้งผู้ใช้รถใช้ถนน และเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา
ผลงานที่สำคัญ เกี่ยวกับป้องกันโรคระบาดโควิด19 ในช่วง 1 ปีแรกนี้ มีถึง 7 เดือน ที่เราคนไทยต้องเข้าสู่วิกฤติ ด้วยกัน ที่ทำให้ประเทศต้องหยุดชะงักและชะลอตัว แม้จะไม่ได้ตั้งตัวกันมาก่อน ทำให้เกิดการขาดแคลนวัสดอุปกรณ์ทางการแพทย์บ้างในช่วงต้น แต่กระทรวงสาธารณสุขใช้เวลาไม่เกิน60 วัน ก็สามารถรับมือกับการระบาดของโรคโควิด ได้ ขณะนี้เราไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมานานกว่า 60 วัน แล้ว ประเทศไทยได้รับการยกย่องจากองค์การอนามัยโลก ให้เป็นประเทศที่มีระบบบริหารการสาธารณสุขและการแพทย์ เพื่อหยุดการระบาดของโควิด ได้ดีเป็นลำดับที่ 2 ของโลก เป็นผลมาจากการทำงานหนักของกระทรวงสาธารณสุข ที่พรรคภูมิใจไทย กำกับการบริหาร และความร่วมมือของประชาชนคนไทยทุกคน และเราเชื่อมั่นว่า เรามีศักยภาพ มีความสามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เช่นนี้ตอดไป แม้ในอนาคต หากจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ เราก็จะรักษาให้หายได้ และควบคุมไม่ให้มีการระบาดเป็นวงกว้างได้
ทางด้านสถานการณ์ทางการเมืองที่รัฐบาลกำลังถูกเรียกร้องจากภาคประชาชน ก็เป็นสิ่งที่พวกเราต้องรับฟัง และนำมาพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดการลุกลามกลายเป็นวิกฤติการเมือง ต้องเปลี่ยนความขัดแย้งทางความคิด ดังนั้น ข้อเรียกร้องของเยาวชน และภาคประชาชน ซึ่งแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา เปิดเผย ตามแนวทางสันติวิธี เป็นข้อเรียกร้องที่พรรคภูมิใจไทย รับฟัง และนำมาพิจารณา เรื่องใดที่มีเหตุผลเพียงพอ สามารถทำได้ เราพร้อมทำทันที แต่ต้องดำเนินการโดยลำดับให้ถูกต้อง
1. การแก้รัฐธรรมนูญ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม กับการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อนำสู่การปฏิรูปการเมือง เป็น เรื่องแรกที่ต้องทำ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญใหม่
2. การยุบสภา เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ควรจะทำหลังจาก ที่เราได้รัฐธรรมนูญใหม่ ที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่าง เพื่อที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
3. การคุกคามประชาชน เป็นเรื่องที่ไม่ต้องเรียกร้อง เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่าฝ่ายใดทั้งสิ้น และเป็นอาชญากรรมที่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ว่าสถานการณ์ใด ก็ต้องไม่เกิดขึ้น
นายอนุทิน กล่าวในตอนท้าย ยืนยันว่า ภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมือง ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และมีเป้าหมายเพื่อปากท้องประชาชน ดังนั้นการรับฟังประชาชน ทุกกลุ่ม ทุกวัย จึงเป็นเรื่องที่เราต้องทำ ถ้าไม่รับฟังประชาชน จะทำงานให้ประชาชนได้อย่างไร งานแรกของพวกเราคือ รับฟังปัญหาของประชาชนแล้วนำมาแก้ไข เพื่อให้ประชาชนมีความสุข เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้
“ผมขอให้พวกเราทุกคน เชื่อมั่นแนวทางการทำงานของพรรคภูมิใจไทย และขอให้พวกเราทุกคนช่วยกัน ร่วมมือกันทำงานให้พี่น้องประชาชน ซึ่งจะเป็นการสร้างความนิยม สร้างความศรัทธาให้แก่พรรคภูมิใจไทย อย่างยั่งยืน ขอบคุณครับ ” หน.พรรค ภท.กล่าวในที่สุด