“บิ๊กตู่” ย้ำ พรก.ฉุกเฉิน ไม่ปิดกั้นปชช. หรือ ขัดขวาง สิทธิการชุมนุม ทางการเมือง ชี้ ใครอยากชุมนุมขอพรบ.ชุมนุมได้ แต่ ที่จำเป็นต้อง คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อความจำเป็น ในการเฝ้าระวัง โควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมครม. ถึงกรณี การออกมาคัดค้านรัฐบาลขยายเวลา การประกาศใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) เพื่อคุมสถานการณ์โควิด-19 ว่า ตนไม่ขอตอบ เพราะมีเหตุผลความจำเป็นอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้นประชาชนเลย ประชาชนจะชุมนุมก็ไปขออนุญาตชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ แต่ในส่วนนี้ไม่ต้องการให้คนไปรวมกลุ่มกันจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด ซึ่งก็แล้วแต่พวกท่านจะกลัวหรือ ไม่กลัวไม่รู้ ตนไม่ได้ไปขู่อะไรอยู่แล้ว ขอให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของการใช้กฎหมายด้วย พร้อมรับฟังทุกเรื่อง
เมื่อถามว่า มองว่าการต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นการแช่แข็งเศรษฐกิจประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เอาอะไรมาพูดว่าเป็นการแช่แข็ง พูดอย่างนั้นคงไม่ถูกต้องมากนัก เพราะวันนี้ มีสถานการณ์โควิด-19 เป็นหลักอยู่แล้วเสริมเพิ่มเติมจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งตนได้ดูในต่างประเทศว่ามีมาตรการอะไรรองรับบ้าง กับสถานการณ์โควิด ที่เกิดขึ้นทั้งการปรับลดดอกเบี้ย ลดดอกเบี้ยธนาคารกลาง เพิ่มเงินทุนหมุนเวียน ตนก็ทำแบบที่เขาทำ ไม่ได้ผิดแบบไปจากเขาเลย มีแต่รายละเอียดยิบย่อยที่เราต้องทำเพิ่มเติม หลักการสำคัญ เราทำเหมือนกันคนอื่นเขาหมด ทั้งนี้ ต้องดูพื้นฐานของเราว่าเข้มแข็งพอหรือยัง ซึ่งต้องมาจาก รวมไทยสร้างชาติ ทุกคนต้องร่วมมือกัน ช่วยกันแสดงความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์
“ผมตำหนิใครไม่ได้อยู่แล้ว ต้องรับฟังจากทุกคน ขอบคุณหลายคนตั้งใจดีอยู่แล้ว แต่บางทีไม่เข้าใจกัน ก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป จนทำให้ ประเด็นสำคัญหายไปหมด หลายเรื่องด้วยความไม่เข้าใจแล้วไปพูดกันต่อ เลยทำให้วุ่นวายไปหมด หลายอย่างเราทำตามต่างประเทศไม่ได้ทั้งหมด เพราะบางประเทศมี 4-5 ล้านคน ขณะที่ประเทศเรามี 60 ล้านคน มีปาก 60 ล้านปาก นายกฯ มีปากเดียวเสียงสู้ไม่ไหว ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้สถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศยังรุนแรงอยู่ ตัวเลขติดเชื้อเข้าไป 10 ล้านคน ตายกว่า 500,000 คน อย่าประมาท ประเทศไทยแม้ว่าจะติดเชื้อยอดรวม 3,000 กว่า ดูมันน้อย แต่หากมีการแพร่ระบาด จะทำอย่างไร ซึ่งวันนี้การตรวจสอบที่พบอยู่ใน สถานที่กักกันของรัฐ แต่ก่อน 3 วัน 7 วันเจอ ตอนนี้ เข้าไปเจอในวันที่ 11 อะไรทำนองนี้ ทุกอย่างประมาทไม่ได้ ทั้งการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง การมั่วสุม ใกล้ชิดกัน หรือใช้แก้วน้ำเดียวกัน
สำหรับมาตรการที่จะออกมาหลังต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในรอบนี้นั้น จะเป็นข้อกำหนดที่สอดคล้องกับกิจกรรม กิจการที่ผ่อนคลาย ข้อกำหนดบางอันยกเลิกไปและมีการเพิ่มบางส่วนเข้ามา เพื่อสุขภาพของพวกเราเองทุกคน ไม่ใช่เพื่ออำนาจตน ทุกคนมองแต่อำนาจ อำนาจ อำนาจ อำนาจมันอยู่กับเราไม่นาน ถ้าเราไม่มีวิธีการทำอย่างโปร่งใส เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนพยายามทำตามกฎหมาย ไม่ใช้วิธีนอกกฎหมายอยู่แล้ว