นายกฯ อารมณ์ดี ร้องเพลง ระหว่าง เปิดสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ยัน รัฐบาล 5 พรรคการเมืองยังปึ้ก ไม่มีปัญหาแตกแยก ประชาธิปไตย มีมากว่า 80 ปี จะล้มรื้อไม่ได้ วอน ปชช.อย่าคล้อยตามผู้ประสงค์ไม่ดี
วันที่ 24 มิ.ย. 63 เวลา 14.00 น. ที่ สวนลอยฟ้า เจ้าพระยา (ฝั่งพระนคร) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิด “สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา” เชื่อมต่อการเดินทางสั่งสัญจรระหว่างฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนครพร้อมจุดชมวิวกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. และนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. ร่วมงาน โดย นายกฯ ได้เดินเยี่ยมชมบรรยากาศบนสวนลอยฟ้าเจ้าพระยาก่อนเปิดให้ประชาชนใช้บริการอย่างเป็นทางการในเวลา 16.00 น.
ทั้งนี้ สวนดังกล่าว กทม.โดยสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง ร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และ ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมืองได้ปรับปรุงภูมิทัศน์ทางสัญจรบนโครงสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณช่องกลางสะพานพระปกเกล้า หรือ สะพานด้วน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกทม. โดยเป็นการปรับปรุงโครงสร้างเดิมของรางรถไฟฟ้าลาวาลินที่ถูกปล่อยทิ้งร้างมากว่า 30 ปี ให้กลายเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าแห่งแรกมีทางเดินและทางจักรยานความยาว 280 เมตร กว้าง 8.50 เมตร พร้อมติดตั้งลิฟต์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ สำหรับ สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา นอกจากจะเชื่อมการสัญจรระหว่างฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนครแล้ว ยังเชื่อมสวนป่ากรุงเทพมหานครเฉลิมพระเกียรติเชิงสะพานพระปกเกล้าเข้ากับสวนสมเด็จพระปกเกล้าไปเขตพระนครอีกด้วย โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึงเวลา 20.00 น.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเห็นหน้าเห็นตาทุกคนในวันนี้ ถือเป็นโอกาสแรกที่ได้ออกมานอกพื้นที่ เพราะก่อนหน้านี้จำเป็นต้องดูแลแก้ปัญหาโควิด-19 รวมทั้งมีหลายงานที่ต้องขับเคลื่อน จึงไม่ได้ออกมาข้างนอกมากนัก แต่จากนี้พยายามออกมาเยี่ยมเยียนให้มากขึ้น ทุกคนทราบดีว่าวันนี้เกิดสถานการณ์อะไรขึ้นในบ้านเมืองของเรา มีคนลำบากเดือดร้อน ตนก็เดือดร้อนไม่น้อยกว่าทุกคน เพราะร้อนใจว่าจะแก้ไขกันอย่างไร วันนี้สถานการณ์ดีขึ้นโดยรัฐบาลจะผ่อนผันต่อไปเรื่อยๆ แต่ระมัดระวังการแพร่ระบาดรอบสอง จะเป็นปัญหามากกว่าเดิม เพราะจะไปเร็วกว่าเดิม จึงขอโทษด้วยถ้าทำให้ใครเดือดร้อน แต่อย่างน้อยสิ่งที่เกิดคือ ความร่วมมือร่วมใจระหว่างรัฐและประชาชน เป็นครั้งแรกประวัติศาสตร์ที่ทุกคนร่วมมือกันและเชื่อฟังกฎหมาย ซึ่งไม่มีอะไรก็ได้นอกจากกฎหมาย ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงอะไรก็ต้องใช้กฎหมายเป็นหลัก
วันนี้หลายคนมั่นใจในการแพทย์และการแก้ปัญหาโควิดของเรา ซึ่งต้องทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางทั้งด้านการแพทย์ สนามบิน และศูนย์กลางซ่อมอากาศยานขนส่ง เพราะเราอยู่ตรงกลางอาเซียน จึงต้องใช้โอกาสนี้ทำสิ่งที่สร้างสรรค์ ขอให้ลดความขัดแย้งที่มีลงให้มาก เพราะไม่เกิดประโยชน์ ต้องทำสิ่งที่สร้างสรรค์ทำให้เกิดขึ้นเร็วในเวลานี้ ไม่เช่นนั้นไม่ทันอนาคต อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ขับเคลื่อนทุกอย่างได้คือความรัก ความสามัคคี ร่วมกันสร้างชาติ
“เรามี 5 ศาสนา ทุกศาสนาสอนให้คนปรองดอง ไม่ใช่สอนให้เอาเป็นเอาตายชนะคะคาน ไม่มีให้ทะเลาะกัน โดยมีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องอยู่ในหัวใจคนไทยทุกคนไม่ว่าใครทำอะไรอย่าไปคล้อยตาม เพราะบางคนมีจุดประสงค์ไม่ดี”
ทั้งนี้ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้รายได้และภาษีก็ลดลง ทำให้งบฯ ก็มีปัญหา แต่ยืนยันรัฐบาลจะแก้ไขและต้องดูความถูกต้อง ซึ่งกลไกตรวจสอบก็มีอยู่แล้ว ขอบคุณที่ไว้ใจมาถึงวันนี้และหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจต่อไป
“ยืนยันว่าพรรคร่วมมีความร่วมมือกันอย่างดีทุกพรรคไม่ว่าจะพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคเล็กๆ ยังเข้มแข็งกันดี บางคนฟังข่าวอาจไม่สบายใจ แต่ข่าวก็คือข่าว ฟังได้ แต่จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของทุกคน ฝากขอบคุณทุกคนและฝากใจนายกฯ ไว้กับทุกคนด้วย ถ้าจำได้ตนเคยแต่งเพลงสะพาน ซึ่งต้องเป็นสะพานเชื่อมโยงเข้าหากัน ตนพร้อมให้เหยียบข้ามไป นั่นคือหน้าที่ของตน”
จากนั้นนายกฯ ได้นำโทรศัพท์มือถือมาเปิดเพลง “สะพาน” ให้ชาวบ้านฟัง พร้อมร้องคลอตาม โดยระบุว่า
“นี่เป็นแรงบันดาลใจของผม จากจิตใจของผม และคิดว่า วันนี้จิตใจของครม.และข้าราชการทุกคนเป็นดวงเดียวกัน คือ ทำเพื่อประชาชน อะไรไม่ดีต้องแก้ไข อะไรคิดนอกกรอบก็ต้องคิด ปรับจูนแก้ให้ตรงกันทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็บอกเหตุผล ถ้าชนกันแบบเดิมไม่มีอะไรทำได้ ต้องคิดว่า ทำอย่างไรคนจะมีบ้าน มีชีวิตดีขึ้น ซึ่งทุกอย่างคือยุทธศาสตร์ชาติที่มีขั้นตอนอยู่แล้ว กลไกประชาธิปไตยเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ล้มรื้อสร้างใหม่วันเดียว มันไม่ได้ เราเป็นมา 80 กว่าปีแล้ว วันนี้รวมไทยสร้างชาติ สัญญากับผมได้หรือไม่ ขอบคุณและให้กำลังใจทุกคนด้วย ให้กำลังใจตัวเองขอให้โควิดหมดสิ้นไปเร็วๆ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ขอบคุณ คลิป จาก ไทยรัฐออนไลน์
