แรมโบ้ เตือน! กลุ่มคนก้าวล่วงสถาบัน หมดอนาคตไม่มีที่ยืนในแผ่นดินไทย ชี้ บรรพบุรุษไทย ยอมเสียเลือดเนื้อ เพื่อปกป้องแผ่นดินให้ลูกหลานได้อยู่อย่างมีเกียรติ ย้ำอย่าแตะต้องสิ่งที่คนไทยเทิดทูน ระวังจะไม่มีแผ่นดินแม่ให้กลบหน้า
วันที่ 16 มิ.ย.63 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุมีกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูง ว่า นายกฯได้พูดด้วยความหวังดีต่อประเทศชาติประชาชนและสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่พวกเราคนไทยเทิดทูนจงรักภักดีเป็นที่สุด เพราะยังมีคนไทยบางกลุ่มที่พยายามก้าวล่วง
เขากล่าวว่าปลุกระดมน้องๆนักศึกษาที่เป็นผู้บริสุทธิ์ให้เดินตามและหลงเชื่อในทางที่ผิดๆซึ่งจะทำให้หมดอนาคตในชีวิตได้ นายกฯปรารถนาดีต่อลูกหลานและพี่น้องคนไทยทุกคน ไม่อยากเห็นใครออกมาเคลื่อนไหวปลุกระดมก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น ส่วนตัวเห็นด้วยกับนายกฯอย่างยิ่ง เราต้องคิดให้ได้ว่าที่พวกเราคนไทยได้อาศัยแผนดินนี้อยู่อย่างสงบสุขและร่มรื่นมายาวนานตั้งแต่บรรพบุรษจนถึงปัจจุบัน ก็เพราะด้วยพระบารมีบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ได้ปกป้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลานด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของพระองค์ท่าน จิตสำนึกตรงนี้เราคนไทยทุกคนต้องจดจำใส่เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ตราบชั่วชีวิตของพวกเราคนไทยทุกคน
“ยิ่งนายกฯได้บอกความจริงว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่10ของพวกเราทรงมีพระเมตตา รับสั่งไม่ให้ใช้กฎหมายมาตรา 112 ต่อคนกลุ่มนี้ ยิ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นที่สุด คนที่คิดบิดเบือน ก้าวล่วงยุยงปลุกปั่น ละเมิดสถาบันควรมีจิตสำนึกว่า พระองค์ท่านทรงเมตตารักและและห่วงใยพสกนิกรคนไทยทุกคน พระองค์ท่านปรารถนาให้คนไทยทุกคนมีความรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ประเทศชาติมีความสงบสุขร่มเย็นภายใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ท่าน โดยที่คนไทยต้องไม่มีความขัดแย้งใดๆทั้งสิ้น จะได้มีวิถีชีวิตทำมาหากินอย่างปกติสุขและน้องๆนักศึกษามีอนาคตในหน้าที่การงานที่ดีมีครอบครัวที่มั่นคง เป็นกำลังที่สำคัญของชาติในวันข้างหน้าตามที่นายกรัฐมนตรีห่วงใยและตักเตือนมาว่า อย่าไปหลงเชื่อกลุ่มบุคคลที่ไม่ปรารถนาดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างเด็ดขาด”
นายสุภรณ์ กล่าวว่า อยากเห็นคนเหล่านี้ที่คิดผิดก็คิดใหม่ได้ ควรกลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ยังไม่สายเกินไป สังคมยังให้อภัยให้โอกาสเสมอ และก็อยากเตือนว่า คนที่ก้าวล่วงสถาบันระวังจะหมดอนาคตไม่มีที่ยืนในแผ่นดินไทย ไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนหลายคนที่ต้องระเหเร่ร่อนไปอยู่ต่างประเทศ ไม่มีโอกาสอาศัยแผ่นดินไทยทำมาหากิน ไม่มีโอกาสใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข ต้องหนีจากแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน ได้รับความลำบากเดือดร้อนครอบครัวแตกแยก สุดท้ายในชีวิตไม่มีโอกาสใช้แผ่นดินพ่อแผ่นดินแม่ ไว้กลบหน้ายามสิ้นลมหายใจ ตนเชื่อมั่นว่า คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ปรารถนาที่อยากจะเห็นคนไทยด้วยกันมีวิถีชีวิตเป็นเช่นนั้นแน่.