จากกรณีชาวบ้านจำนวนมาก ซื้อขนมจีบจากแม่ค้าเร่ แล้วเกิดอาหารเป็นพิษอย่างรุนแรง ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต จนเกิดกระแสเรียกร้องให้มีการตามหาตัวแม่ค้ารายนี้นั้น
ล่าสุดวันนี้ (11 พ.ค.63) เวลา 11.30 น. พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.ท.การกฤศ กาญจนสุวรรณ รอง ผกก.ป.สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำตัวหญิงสาววัย 30 ปีเศษ แม่ค้าขายขนมจีบ ชาว อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ที่ขับรถจักรยานยนต์เร่ขายขนมไปจนถึงในเขต จ.สมุทรปราการ จนตกเป็นข่าวหลังมีคนตายจากการบริโภค เดินทางเข้ามาพูดคุยต่อสื่อมวลชน หลังแม่ค้าเร่รายนี้นำขนมจีบจากผู้ผลิตในเขตพื้นที่ ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ไปเร่ขายถึงในเขต จ.สมุทรปราการ จนทำให้มีผู้ที่ซื้อไปบริโภคเกิดอาการท้องเสียนับสิบราย และเสียชีวิต 1 ราย
โดยแม่ค้าขายขนมจีบ เล่าว่า เป็นผู้ที่ตกอยู่ในกระแสข่าวจริง ที่รับขนมจีบมาจากผู้ผลิตรายหนึ่งในเขตพื้นที่ ต.เกาะไร่ ในช่วงเช้าวันละประมาณ 15 กล่อง ช่วงเวลาประมาณ 06.30 น. มาขายที่จุดขายประจำในบริเวณหน้าวัดเทพราช ใกล้กับบ้านพัก จากนั้นหากยังมีขนมจีบเหลือจากขายที่หน้าวัดอยู่ ก็จะนำออกไปเร่ขายตามบ้านคน และตามบ่อตกปลาต่างๆ ทั่วไป ทั้งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบริเวณเขตแนวรอยต่อจังหวัดกัน ประมาณช่วงเที่ยงหรือบ่ายๆ ก็จะขายหมด
โดยที่ตนเองจะไม่ได้เปิดกล่องสัมผัสกับเนื้อขนมจีบเลย เพราะทางร้านเขาจะแพ็คใส่กล่องมาอย่างดี รวมทั้งน้ำจิ้มด้วย จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน ว่าขนมจีบที่ตนนำไปขายนั้น เป็นต้นเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต หลังจากการบริโภคเข้าไปแล้วหรือไม่ เพราะตนรับขนมจีบจากผู้ผลิตรายนี้มาขายนานเป็นปีแล้ว
นอกจากนี้เขายังส่งไปขายหลายแห่ง ทั้งตามโรงงาน และร้านค้าต่างๆ ทั่วไป ก็ยังไม่พบว่ามีผู้ที่บริโภคแล้วเกิดอาการท้องเสียดังกล่าว และหากขนมจีบที่ตนนำไปขายนั้น เป็นต้นเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นจริง ตนต้องขอโทษต่อคนในสังคม คนที่ต้องเข้านอนยังในโรงพยาบาล และครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตด้วย เพราะตนไม่ได้เป็นผู้ผลิตเอง และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งตนเพิ่งทราบเรื่อง ขนมจีบที่ขายราคาเพียงชุดละ 30 บาท ในวันเกิดเหตุได้ไปรับขนมจีบมาขายตามปกติ 15 ชุด และเมื่อมีขนมจีบเหลือขายจากหน้าวัด จึงได้นำออกไปเร่ขายพร้อมกันกับสินค้าชนิดอื่นๆ เช่น สาคู และข้าวกล่องด้วย ทั้งยังเป็นการขายแบบวันต่อวันเพียงไม่กี่ ชม. ก็หมด ไม่ได้มีการเก็บไว้ขายข้ามคืนแต่อย่างใด
ส่วนที่ ตำบลเกาะไร่ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านที่ทำขนมจีบส่งขายให้กับ น.ส. มิ้นท์ โดย นางสุวรรณี รูปโลก อายุ 55 ปี คนทำขนมจีบส่งขายให้กับแม่ค้าคนกลาง ได้พาทีมข่าวไปดูสถานที่การทำขนมจีบภายในบ้าน พร้อมยืนยันว่าทุกกระบวนการทำด้วยความสะอาดและมีการป้องกันเป็นอย่างดี
นางสุวรรณี กล่าวว่า ตนทำขนมจีบไก่มานานเกือบ 10 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านก็ทำส่งขายไปหลายเจ้า แต่ช่วงนี้ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงไม่ได้ไปตั้งขายที่ตลาด ทำให้นางสาวมิ้นท์มารับขนมจีบจากที่บ้านไปขาย โดยในช่วงวันพุธที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา นางสาวมิ้นท์ได้มารับขนมจีบจากที่บ้านไปจริงจำนวน 10 กล่องในช่วงเวลา 6 โมงเช้า และมารับอีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลาประมาณ 9 โมงเช้าวันดังกล่าวอีกจำนวน 5 กล่อง ก่อนที่ตนจะหยุดขายไปหลังจากนั้น เพราะไม่สบาย
นางสุวรรณี บอกอีกว่า ตนขายให้กับนางสาวมิ้นท์มานาน 1-2 ปีแล้ว โดยยืนยันว่าขนมจีบที่ตนทำไม่ใส่สารกันบูด ซึ่งคนแถวบ้านก็กินกันเกือบทุกคนและไม่มีคนมีปัญหาอะไรเลย มีเพียงเคสของนางสาวมิ้นท์เพียงคนเดียวที่ซื้อไปในวันพุธที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา รวมไปถึงเรื่องของน้ำจิ้มที่ทำก็ทำเพียงหม้อเล็กๆใส่ส่วนผสมตามปกติ และเต็มที่ก็เก็บไว้นานสุดไม่ถึง 2 วัน ซึ่งมีการชิมก่อนขายทุกครั้งด้วย ส่วนตัวไม่เครียด เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมยินดีให้ตรวจสอบ โดยขั้นตอนการผลิตที่ผ่านมา ยืนยันว่าสะอาด ปลอดภัย และใส่ถุงมือเป็นอย่างดีด้วย ซึ่งปกติจะทำขายวันละประมาณ 40-50 กล่อง กล่องละ 7 ลูก และจะขายส่งในราคากล่องละ 17-18 บาท
ในเบื้องต้นทาง สำนักงานสาธารณสุข จ.ฉะเชิงเทรา ได้ประสานพูดคุยมาบ้างแล้ว และจะให้พาไปตรวจสอบยังแหล่งผลิตขนมจีบแห่งนี้ด้วย ในช่วงบ่ายของวันนี้ ส่วนทางร้านที่ตนรับขนมจีบมา ได้ทราบเรื่องแล้วและยังไม่พบว่ามีผู้ที่ซื้อขนมจีบและรับไปขายในวันเดียวกันกับตน มีอาการตามที่ตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ แม่ค้าขนมจีบผู้ที่ตกเป็นจำเลยสังคมเผย