ยังเป็นข้อถกเถียงและเป็นวิวาทะกันระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนว่า ใครเป็นคนปล่อยเชื้อโควิด-19 โดยสื่อสหรีฐฯ พยายามตอกย้ำและประโคมข่าวว่า มาจากอู่ฮั่นของจีน ในขณะที่จีนอ้างผลการวิจัยและพยานแวดล้อมต่างๆ ระบุว่า สหรัฐฯเป็นคนแพร่เชื้อ และกลายเป็นจีนที่ฟื้นคืนความเข้มแข็ง พัฒนาตัวเองได้เร็ว สู่ประเทศมหาอำนาจที่อเมริกาอาจต้องตามหลัง
ไวรัสโคโรน่า2019 ตอนแรกมีความพยายามของสื่อตั้งฉายาว่า อู่ฮั่นไวรัส เพื่อตอกย้ำว่า เป็นไวรัสที่มาจากเมืองอู่ฮั่น แต่องค์การอนามัยโลก(WHO) บัญญัติชื่อโรคใหม่ว่า COVID-19 เพื่อไม่สร้างบาดแผลให้กับอู่ฮั่น แต่ต้นตอของโรคมาจากไหนจะเป็นปริศนาที่ต้องหาคำตอบ
เชื้อไวรัสโคโรน่า2019 เริ่มระบาดรุนแรงในเมืองอู่ฮั่น เมืองอุตสาหกรรม ซึ่งหากดูแผนที่ จะเห็นว่า เป็นเมือวที่ตั้งอยู่ใจกลางของปประเทศจีน หากใครจะทำร้ายประเทศจีน เริ่มที่ใจกลางประเทศและให้กระจายไปยังทุกภูมิภาคก็นับว่า เป็นยุทธศาสตร์ที่เฉียบคม แต่ต้องบอกว่า เลวร้ายผิดมนุษย์มนา
ข่าวการติดเชื้ออู่ฮั่นมาจากตลาดสดที่ขายอาหารทะเล มีข่าวว่า หญิงคนหนึ่งกินค้างคาว จึงติดไวรัสและได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน2019 และพีคสุดในช่วงก่อนวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน ทำให้จีนต้องสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น และอีกหลายเมือง รวมทั้งให้มาตรการน็อคดาวน์ ทุกเมืองในจีน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
แม้ข่าวว่า เชื้อมาหญิงชาวจีนในอู่ฮั่น แต่จากการตรวจสอบทางระบาดวิทยาของจีนยังไม่พบต้นตอแรกของการระบาด จากการสอบสวนโรคพบว่า การระบาดตรวจพบในขั้นตอนที่ 6 และจากการไล่ตรวจสอบพบการระบาดในขั้นตอนที่ 3 ยังไม่เจอต้นตอแรกของการระบาด
ข้อมูลจากการวิจัย
สถาบันทางการแพทย์ สถาบันระบาดวิทยา และทางการทหารด้านอาวุธเชื้อโรค ได้วิจัยพัฒนาการของเชื้อไวรัสโควิด-19 และตีพิมพ์ผลงานค้นคว้าวิจัยเป็นภาษาอังกฤษลงในวารสาร “Science China Life Sciences” เมื่อ 21 มกราคม 2563 พบข้อสรุปที่น่าน่าสะพรึงกลัวว่า โคโรน่าไวรัส2019 มาจากห้องทดลอง
นักวิจัยกลุ่มนี้ พบว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 พัฒนามาจากไวรัสซาร์ที่แพร่ระบาดเมื่อ 17 ปีก่อน โดยเริ่มจากประเทศจีน แต่เป็นการระบาดที่ไม่รุนแรงและส่งผลกระทบทั่วโลกอย่างโควิด-19
ข้อมูลจากการวิจัยพบว่า ได้มีการเปลี่ยนโปรตีน 4 ตัวในโครงสร้างของ Corona ที่เรียกเป็น S-protein) virus สายพันธุ์ที่พบที่ Wuhan โดยตั้งใจให้ Corona virus ที่ได้แก้ไขสายพันธุ์นี้ มีความเหมาะสมที่จะสามารถโจมตี genes ของคนจีนได้ดีขึ้น
ในโครงสร้างของ Co V’s นั้นได้มีหน่วยโปรตีนที่สำคัญ (4 interface amino acid residues) ได้ถูกทำให้เปลี่ยนไป เพื่อให้สามารถที่จะจับยึดติดกับ cell ACE2 ของคนได้ดีมากขึ้น และเจ้าไวรัสนี้ จะเข้ายึดเกาะกับ ACE2 – molecule ได้ดียิ่งขึ้นกว่าไวรัสซาร์ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มันโจมตีเยื่อบุทางเดินหายส่วนบนของคนได้ดีกว่าเดิม และจะทำให้การแพร่กระจายของมันจากการได้สัมผัสเชื้อเป็นไปได้ง่าย ทางปากและจมูก
การวิจัยของจีน ยังระบุว่า ไวรัสซาร์ จะกลายพันธ์ไปตามธรรมชาติด้วยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างถึง 4 s-proteinนั้น มันต้องใช้เวลาร่วม 10,000 ปี ถึงจะเกิดขึ้นได้
ข้อมูลจากการห้องวิจัยของจีนเป็นการยืนยันชัดเจนว่า การเกิดเชื้อไวรัสและการแพร่กระจายเชื้อมาจากคน แต่จะเป็นใครนั้น ทางจีนพุ่งเป้าไปทันทีว่า เป็นอเมริกา ที่ต้องการทำลายจีน
ข้อมูลแวดล้อมมัดสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ได้ทวีตข้อความระบุว่า อาจจะเป็นทหารสหรัฐฯ ที่นำการระบาดใหญ่ไปยังเมืองอู่ฮั่น สหรัฐฯ ต้องอธิบายจีนให้ได้ในเรื่องนี้ จงเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนอย่างโปร่งใส!
ตามข้อมูลของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า นายโรเบิร์ต เรดฟีลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการกำกับและปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร ของสหรัฐ ยอมรับว่า มีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ จำนวน 14,000 คน ในจำนวนนี้มีส่วนหนึ่งถูกตรวจพบว่า ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 คนสหรัฐฯ ถูกตรวจพบติดเชื้อไวรัส-19 ก่อนเดือนตุลาคม 2562
ในกลางเดือนตุลาคมมีการแข่งขันกีฬาทหารโลก โดยจีนเป็นเจ้าภาพ จัดที่อู่ฮั่น มีทหารอเมริกันเกือบ 300 คนเข้าร่วมการแข่งขัน พวกเขาพักในโรงแรมใกล้ๆตลาดทะเลอู่ฮั่นต้นตอการแพร่เชื้อระบาดไวรัสที่ตอนแรกถูกแรกไวรัสอู่ฮั่น
มีทหาร 5 คนมีอาการป่วย และถูกนำตัวกลับสหรัฐอเมริกอย่างเร่งด่วน หลังจากนั้น จึงเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า เริ่มต้นที่ตลาดสะทะเลอู่ฮั่น มีการระบุว่า เชื้อมาจากค้างคาว มาจากการกินซุบค้างคาว น่าจะเป็นข้อสันนิษฐาน ที่ไม่มีไม่เป็นความจริง แต่เป็นสิ่งที่คนทั่วโลกเชื่อไปแล้ว
การสืบสวนโรคในเบื้องต้นของจีน พบคนติดเชื้อ ในอันดับที่ 6 ผ่านมา 2-3 เดือน สามารถสอบสวนโรคได้เพียงลำดับที่ 3 ยังไม่สามารถสืบค้นไปถึงต้นตอลำดับที่ 1 ได้จนบัดนี้
สหรัฐฯ เป็นประเทศแรกที่อพยพคนอเมริกันกลับประเทศหลังการระบาดไวรัสโคโรน่า และไม่อนุญาตให้คนจีนเข้าประเทศ แต่กลับมีการแพร่ระบาดของไวรัสในสหรัฐฯค่อนข้างรุนแรง และเมื่อยุโรปมีการระบาดหนักก็ห้ามคนยุโรป เข้าประเทศ แต่เชื้อโควิด-19 ยังระบาดหนัก เป็นไปได้หรือไม่ว่า มีเชื้อโรคอยู่ในสหรัฐฯอยู่แล้ว
ในวันที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงอย่างหนัก เกือบ 2,000 จุด เนื่องจากมีการตรวจพบชายคนหนึ่งในแคลิปฟอร์เนีย ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สร้างความตื่นตะหนกให้กับคนสหรัฐฯ จนต้องเทขายหุ้นอย่างหนัก ซึ่งแคลิฟอร์เนีย เป็นที่ตั้งของCIA ที่มีการระบุว่า เป็นคนสร้างอาวุธชีวภาพขึ้นมาทำลายจีน
จีนกับสหรัฐฯ แย่งชิงการเป็นผู้นำโลกมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีความขัดแย้งกันหลายประเด็น โดยในช่วงที่มีการเริ่มแพร่กระจายเชื้อไวรัส เป็นช่วงที่สหรัฐฯกับจีนกำลังทำสงครามการค้าอย่างดุเดือด เป็นไปได้หรือไม่ว่า สหรัฐฯเป็นฝ่ายสร้างอาวุธชีวภาพขึ้นมาเพื่อทำลายจีน
หากไวรัสโควิด-19 เป็นอาวุธชีวภาพ ก็นับเป็นอาวุธชีวภาพที่มีอานุภาพร้ายแรง ไม่เพียงทำร้ายจีนจนบอบช้ำอย่างหนักในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม แต่ยังทรงอานุภาพทำลายล้างไปทั่วโลก โดยเฉพาะยุโรปที่มีการอาการหนักมาก และกลายเป็นสหรัฐฯ ที่มีอาหารหนักสุด มีผู้ติดเชื้อทะลุกว่า 200,000 ราย และเสียชีวิตอีกหลายพันคน จนระบบสาธารณสุขที่มีความทันสมัยไม่อาจรองรับได้
เรียกว่า กรรมสนอง
และกลายเป็นจีน ที่พลิกฟื้นอย่างรวดเร็ว จากการบริหารจัดการอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว รวมทั้งการพัฒนาด้านเทคโนโลยีผลิตยาและเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับโรคไวรัส ส่งผลให้จีนเป็นผู้ส่งออกการช่วยเหลือไปทั่วโลก
หอกที่ย้อนกลับไปหาสหรัฐฯ หนักหนาสาหัส จนอาจต้องใช้เวลานานในการพลืกฟื้นในทางเศรษฐกิจ ความเป็นมหาอำนาจกำลังถดถอย ในขณะที่จีน กลับมาคุมสภาพได้ และกำลังกลายเป็น ‘มหาอำนาจ’
ไวรัสโควิด-19 นับเป็นไวรัสเปลี่ยนโลกอย่างแท้จริง-Mtoday
