กลุ่มคนไทย 300 คนติดค้างด่านวังประจัน มาเลเซีย ได้กลับบ้านแล้ว แต่มีมาตรการตรวจเข้ม ป้องกันโรคโควิด-19 และต้องรายงานตัวกับร.พ.ตำบล และต้องกักตัวเองในบ้าน 14 วัน ตำรวจเผยมีเบื้องหลังคนบิดเบือนข้อมูลส่งผลคนไทยแตกตื่นกลับบ้าน
วันที่ 29 มีนาคม จังหวัดสตูล ได้รายงานสถานการณ์ กรณีกลุ่มคนไทยในมาเลเซียเดินทางกลับไทย ผ่านด่านศุลกากรวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล โดยไม่สามารถข้ามด่านได้ เนื่องจากมีคำสั่งปิดด่าน มีรายละเอียด ระบุว่า
เมื่อ 28 มี.ค.63 เวลา 06.00 มีแรงงานคนไทยที่ไปทำงานที่อยู่ในมาเลเซีย ประมาณ 280-300 คน ได้เดินทางกลับประเทศไทย ผ่านด่านศุลกากรวังประจัน อ.ควนโดน จว.ส.ต. โดยมีรถตู้โดยสารของฝั่งไทยที่มาคอย รับ-ส่ง ผู้โดยสาร ประมาณ 30 คัน แต่กลุ่มแรงงานคนไทยเหล่านี้ ยังไม่สามารถเดินทางข้ามผ่านด่านได้ เนื่องจากด่านศุลกากรวังประจันปิดด่าน ตามคำสั่ง ผวจ.สตูล ที่ 624/63 ลง 23 มี.ค.63 จึงทำให้กลุ่มคนไทยที่ต้องการเข้าไปยังฝั่งไทย ยังคงต้องพักคอยอยู่บริเวณหน้าด่านวังเกลียน รัฐเปอร์ลิส มาเลเซีย
หลังทราบปัญหา เมื่อเวลา 14.00 น.กอ.รมน.จว.สต. พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยว ได้มีการประชุมร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาการกลับเข้ามาของกลุ่มแรงงานคนไทย ณ ห้องประชุม ด่านศุลกากรวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายศักดา วิทยาศิริกุล รอง ผวจ.ส.ต., พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผบ.พล.ร.5, พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6, พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จ.สตูล, นายรัชฎา จิวาลัย กงสุลใหญ่ เมืองปีนัง มาเลเซีย, พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผบ.ร.5 พัน.2, พ.ต.อ.ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.สตูล, พ.ต.อ.บุญเลิศ ตรัสสิริ ผกก.สภ.ควนโดน และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองด่านวังเกลียน รัฐเปอร์ลิส มาเลเซีย โดยมี นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ส.ต./ผอ.รมน.จว.ส.ต.เป็นประธาน
ที่ประชุมมีมติให้คนไทยทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านศุลกากรวังประจันได้ แต่ต้องดำเนินกรรมวิธีตามที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือ
2.1 กลุ่มแรงงานคนไทยทั้งหมดที่ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย ต้องได้ผ่านการรับรองจากกงสุลไทยในเมืองปีนัง มาเลเซีย และมีใบรับรองแพทย์ ซึ่งจะต้องผ่านการตรวจรับรองอย่างน้อย 72 ชม. ก่อนเดินทาง และให้กงสุลไทยในมาเลเซีย แจ้งให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จว.ส.ต. ได้รับทราบ เพื่อสะดวกในการตรวจสอบการผ่านแดน
2.2 กลุ่มแรงงานคนไทยที่ผ่านด่านศุลกากรวังประจันได้กลุ่มนี้ จะต้องผ่านการคัดกรองโรคเชื้อไวรัสโคนา 2019 (COVID-19)โดยละเอียดอีกครั้ง และจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตาม พรบ.ควบคุมโรค พ.ศ.2558 อย่างเคร่งครัด
2.3 กลุ่มคนไทยอยู่ใน จ.ส.ต.ให้ส่งกลับภูมิลำเนา และให้ไปรายงานตัวต่อ รพ.สต. หรือ กำนัน และ ผู้ใหญ่บ้าน ทันที และให้กักตัวเอง จำนวน 14 วัน โดยให้เจ้าหน้าที่ รพ.สต. ติดตามพฤติกรรมของแต่ละบุคคล และรายงานให้ สาธารณสุขแต่ละอำเภอได้รับทราบ ทั้งนี้ เพื่อเฝ้าระวังติดตามกลุ่มบุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ภายใต้กำกับดูแลของนายอำเภอประจำพื้นที่
2.4 กลุ่มคนไทยที่มีภูมิลำเนานอกพื้นที่ จว.ส.ต.ให้ดำเนินการส่งกลับภูมิลำเนา โดยได้มีการจัดยานพาหนะโดยสาร พร้อมกับได้ประสานสาธารสุขจังหวัดในภูมิลำเนาได้รับทราบ เพื่อดำเนินมาตรการป้อง และติดตามกลุ่มบุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยง
ต่อมา เวลา 18.15 น. เจ้าหน้าที่ไทยกงสุลใหญ่ ประจำเมืองปีนัง มาเลเซีย ได้มีการรับรองให้กลุ่มแรงงานคนไทยทั้งหมด เดินทางกลับเข้าประเทศไทย และส่งเอกสารรับรองให้ด่านตรวจคนเข้าเมือง จว.ส.ต. ได้รับทราบ เพื่อดำเนินคัดกรองผ่านด่านด่านศุลกากรวังประจันอีกครั้ง ซึ่งกลุ่มแรงงานคนไทยได้จะทยอยออกมาจากฝั่งมาเลเซียเข้ามาฝั่งไทย
จากกรณีการรวมตัวของกลุ่มคนงานไทยที่อยุ่ในมาเลเซียดังกล่าว ทางส่วนราชการ เชื่อว่าน่าจะมีกลุ่มบุคคลในประเทศไทยร่วมมือกับแกนนำที่เป็นตัวแทนแรงงานไทยในมาเลเซีย ให้ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้กลุ่มคนไทยดังกล่าว หลงเชื่อ จึงได้รวมตัวกันเดินทางมาที่ด่านวังเกลียน รัฐเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ทางด่านศุลกากรวังประจัน ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสตูลจะติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง รายละเอียดเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป