สหรัฐฯกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ เพื่อลงโทษอิหหร่านที่ทดสอบขีปนาวุธ และให้การสนับสนุนกบฏฮูตีของเยเมน
มาตรการคว่ำบาตอิหร่านของสหรัฐฯ หนแรกที่โดยออกรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เล็งเป้าหมายไปที่บริษัทต่างๆและกลุ่มบุคคลทั้งในอิหร่านและจีน ที่ถูกสหรัฐฯระบุตัวว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนโครงการขีปนาวุธของเตหะรานและกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติ
“อิหร่านยังคงให้การสนับสนุนก่อการร้ายและพัฒนาโครงการขีปนาวุธที่ส่อเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาค ต่อพันธมิตรของเราทั่วโลกและต่อสหรัฐฯ” จอห์น สมิธ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมดูแลทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลังระบุ
ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯมีขึ้นหลังจากเมื่อวันอาทิตย์(29มค.) อิหร่านดำเนินการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง ซึ่งทำเนียบขาวเชื่อว่ามันละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ห้ามทดสอบขีปนาวุธบรรทุกวัตถุนิวเคลียร์
เมื่อวันอังคาร(31ม.ค.) ไมเคิล ฟลินน์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศว่าเขาขึ้นบัญชีอิหร่านอย่างเป็นทางการแล้ว ต่อกรณีทดสอบขีปนาวุธ
มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ประสงค์ปิดตายบริษัทและกลุ่มบุคคลที่อยู่ในบัญชีดำพ้นจากการค้าและการเงินโลก ด้วยห้ามชาวอเมริกันและองค์กรหรือบริษัทใดๆที่มีสำนักงานในสหรัฐฯ ทำธุรกิจกับบริษัทหรือบุคคลเหล่านี้ ที่ต้องการสงสัยพัวพันกับการจัดส่งสินค้าแก่โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ทางด้านอิหร่าน ประเทศเมื่อ 3 ก.พ.ว่า จะขึ้นบัญชีดำประเทศและประเทศที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งหมายถึงสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด จอห์น สมิธ ได้ออกมาระบุว่า การทดลองขีปนาวุธของอิหร่านไม่ได้ละเมิดข้อตกลงสหประชาชาติ