คณบดีศิริราช ห่วง หากคนไทยไม่อยู่บ้าน อัตราป่วยโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นแน่ คาด 15 เม.ย. จะมีผู้ป่วย 3.5 แสนราย นอน รพ. 5.2 หมื่นราย ตาย 7 พันราย
วันที่ 23 มี.ค.63 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มเพิ่มจำนวนสูงขึ้นจาก 2 กลุ่มใหญ่ คือ กรณีผับ และ สนามมวย โดยสถานการณ์ของโลกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มที่คุมอยู่ เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง กลุ่มนี้อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยจาก 100 ราย เป็น 200 ราย อยู่ที่ 5 วัน และ 2. กลุ่มที่คุมไม่อยู่ คือ แถบยุโรป โดยจำนวนผู้ป่วยจาก 100 คน มาเป็น 200 คน อยู่ที่ประมาณ 3 วัน
ขณะที่ ประเทศไทยตอนผู้ป่วย 100 คน และเพิ่มมาเป็น 200 คน อยู่ที่ประมาณ 3.5 วัน และ ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นจะวิ่งไปในแนวทางกลุ่มประเทศที่คุมไม่อยู่ จะมีรายใหม่บวกเพิ่มประมาณ 33%
และจากการดูอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยรายใหม่ในไทยของแต่ละวัน พบว่า เพิ่มวันละ 30 คน เป็น 50 คน 89 คน และ 188 คน ตอนนี้ตัวเลขวิ่งไปเร็ว และอัตราการเพิ่มอยู่ในตัวเลข 30 กว่าเปอร์เซ็นต์จริง ดังนั้น หากเราไม่ทำอะไร ปล่อยให้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่แต่ละวันเพิ่ม 33% จากการคำนวณทางสถิติ พบว่า จากวันที่ไทยพบผู้ป่วยเกิน 100 คนครั้งแรก คือ วันที่ 15 มี.ค. หากไม่ทำอะไรใน 30 วัน คือ วันที่ 15 เม.ย. 2563 ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 351,984 ราย
ต้องนอน รพ. 52,792 ราย อยู่ ไอ.ซี.ยู. 17,597 ราย และเสียชีวิต 7,039 ราย แต่หากเราเริ่มดำเนินการเพื่อดึงจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลงมาที่ 20% คำนวณว่า วันที่ 15 เม.ย. เราจะลดจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 มาอยู่ที่ 24,269 ราย นอน รพ. 3,640 ราย อยู่ ไอ.ซี.ยู. 1,213 เสียชีวิต 485 ราย