นายกรัฐมนตรี เพิ่มความเข้มข้น มาตรการเฝ้าระวัง โควิด-19 จากเดิมคุมเข้มแค่ 4 ประเทศ ยกระดับครอบคลุมทุกชาติ ต้องใบรับรองแพทย์ ยืนยัน ไร้เชื้อมฤตยู สั่ง ผู้ว่าฯทุกพื้นที่ รายงานสถานการณ์โดยตรงทุกวัน
วันที่19 มี.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกับทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในต่างจังหวัดนั้น ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละจังหวัด ให้มีอำนาจการบริหารและพิจารณาในพื้นที่ของตนเองว่าจะสั่งปิดสถานบันเทิง ผับ ร้านอาหาร หรือสั่งงดกิจกรรมที่มีคนไปชุมนุมจำนวนมากหรือไม่ โดยผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดจะต้องรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ให้ตนเองทราบทุกวัน
ส่วนมาตรการป้องการและคัดกรองบุคคลที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จากเดิมเฝ้าระวังเพียง 4 ประเทศ แต่ตอนนี้ได้ยกระดับการคัดกรองให้มีความเข้มขึ้น โดยผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทุกประเทศต้องมีใบรับรองแพทย์ ที่ระบุว่า ไม่ติดเชื้อโควิด ไม่ป่วย ไม่มีไข้ และต้องมีประกันสุขภาพ วงเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 3 ล้านบาท รวมทั้งจะต้องถูกติดตามโดยแอพพลิเคชัน เพื่อระบุตำแหน่งเป็นเวลา14 วัน เพื่อเฝ้าระวังและติดตามอาการ
ด้านนายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุข มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้วทุกด้าน ทั้งการจัดเตรียมบุคคลากรทางการแพทย์ สถานที่ ยาฟาวิพิราเวียร์ที่สั่งซื้อจากประเทศจีน รวมถึงหน้ากากอนามัย ยืนยันว่าทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วและมีเพียงพอต่อการใช้งาน แต่สิ่งที่กังวลขณะนี้คือความร่วมมือจากประชาชน จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเร่งครัด
