กลายเป็น เกมการเมือง ที่ ลากยาวกันข้ามปี จากปลายปี 62 ถึงต้นปี 63 กรณี พรรคอนาคตใหม่ มีมติขับ 4 สส.”งูเห่า” พ้นจากการเป็น สมาชิก ปม แหกมติพรรค “โหวตสวน” รับญัตติ การแก้ไข รธน.
ล่าสุด กรณีดังกล่าว กลับพลิกผัน เมื่อนายทะเบียนพรรคอนาคตใหม่ ได้ส่งเอกสารแจ้ง กกต.ว่า 4 ส.ส.ยังมีสถานะ เป็นสมาชิกพรรค อนาคตใหม่
กรณีดังกล่าว จึงเกิดคำถามตามมา มากมาย ว่าเกิดอะไรขึ้น? 4 ส.ส.งูเห่า จะทำอย่างไรต่อไป ประเด็นสำคัญคือ ต้องหาพรรคใหม่ สังกัดภายในเวลา 30 วัน ตามกฏหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ นั่นคือ ภายในวันที่ 17 ม.ค.2563
ดังนั้น 4 สส.ต้องดิ้นตาย โดย “กวินนาถ ตาคีย์” ส.ส.ชลบุรี และ “จารึก ศรีอ่อน” ส.ส.จันทบุรี ได้เข้าสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท ของ “ชัช เตาปูน”
ส่วน”ศรีนวล บุญลือ” ส.ส.เชียงใหม่ จะเข้าพรรคภูมิใจไทย และ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี จะไปอยู่พลังประชารัฐ แต่ ที่สำสำคัญ คือ จะต้องมี หนังสือยืนยันเป็น ลายลักษณ์อักษร การพ้นสถานะพรรค อนาคตใหม่ ไปยืนยันกับ ต้นสังกัดพรรคใหม่ด้วย
ข้อิเท็จจริงที่พบคือ อนาคตใหม่ ยังไม่ทำหนังสือแจ้งแก่ผู้ที่ถูกขับออกจากพรรค และยังไม่ได้แจ้งต่อ กกต. ถึงมติพรรค ที่ขับ 4 ส.ส.ออกจากพรรค และไม่แจ้งจำนวนสมาชิกพรรคที่เปลี่ยนแปลงไปในรอบปี ที่กำหนดต้องแจ้งภาย ในวันที่ 15 ม.ค.63
กระทั่งวันที่ 17ม.ค.63 กกต. เพิ่งได้รับหนังสือแจ้งจากพรรคอนาคตใหม่ โดยส่งทางไปรษณีย์ ลงวันที่ 15 ม.ค. ปรากฏว่า ทั้ง 4 คน ยังมีชื่อเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และยังไม่ได้แจ้งมติการขับ 4 ส.ส. ออกจากพรรค
ปัญหาจึงเกิดขึ้นกับทั้ง 4 คน โดย 2 คน แรก คือ “กวินนาถ -จารึก” ที่ ย้ายไปอยู่กับ พลังท้องถิ่นไทยแล้ว จะต้องเจอปัญหาการเป็นสมาชิก 2 พรรคการเมือง อาจถูกนายทะเบียน กกต.ลบชื่อออกจากทั้งสองพรรค
ส่วน “ศรีนวล-พ.ต.ท.ฐนภัทร” ก็ยังไปเข้าสังกัดพรรคใหม่ตามที่ต้องการไม่ได้
“ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการพรรค อ้างว่า ไม่มั่นใจในมติพรรคที่ขับ 4 ส.ส. วันที่ 17 ธ.ค.62 นั้น องค์ประชุมถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบ เพราะองค์ประชุม นอกจากส.ส.-กรรมการบริหารพรรคแล้วยังต้องมีตัวแทนภาคด้วย จึงขอไปตรวจสอบก่อน แต่เนื่องจากพรรคมีคดีมากมาย จึงไม่มีเวลามาดูเรื่องนี้
เมื่อออกมาในรูปนี้ อย่าว่าแต่ 4 ส.ส.เลย แม้แต่คนทั่วไปยังมองว่า นี่เป็นการกลั่นแกล้งเอาคืน โดยใช้เงื่อนไขกฎหมายมาสร้างความลำบาก ยุ่งยากให้กับ 4 ส.ส. เพราะการส่งยอดรายชื่อสมาชิกไปให้ กกต. ยังส่งในวันสุดท้าย และส่งทางไปรษณีย์ จนไปถึงกกต.ในวันที่เลยเดดไลน์ไปแล้ว
ขณะที่การตรวจสอบองค์ประชุมของพรรคในวันที่ลงมติ 17 ธ.ค.62 ก็แค่ไปตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม ก็รู้แล้วว่าองค์ประชุมถูกต้องหรือไม่ ให้เจ้าหน้าที่ธุรการตรวจสอบก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ระดับผู้บริหารพรรคไปตรวจสอบเอง
กระทั่ง “กวินนาถ” ต้องนำคลิปการประชุมในวันนั้น มาเผยแพร่ ซึ่งก็ปรากฏว่า “ปิยบุตร” ในฐานะเลขาฯพรรค เป็นผู้ดำเนินการประชุมเอง
ในคลิป “ปิยบุตร” ระบุว่า ตามรธน. มาตรา 101(9) กำหนดไว้ว่า ส.ส.จะพ้นจากสมาชิกพรรคได้ ต้องใช้ที่ประชุมร่วมกันของกรรมการบริหารพรรค และส.ส. โดยต้องมีมติ 3 ใน 4 ปัจจุบัน เรามี ส.ส. 80 ท่าน และ กรรมการบริหารพรรค15 ท่าน โดยคู่กรณี คือ ทั้ง 4 ท่านส.ส. ถูกเสนอให้ขับออกจากพรรค ก็จะไม่ได้เข้าร่วมประชุม เพราะถือว่ามีส่วนได้ ส่วนเสีย
จากนั้น”ปิยบุตร” ทำการเช็กองค์ประชุม ปรากฏว่ามีส.ส.เขต 21 คน กรรมการบริหารพรรค 12คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 45 คน
“องค์ประชุมในวันนี้ทั้งสิ้น 78 ท่านครับ องค์ประชุมเราครบถ้วนนะครับ” ปิยบุตร ระบุก่อนขอ มติ และที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ขับ 4ส.ส. ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
จึงต้องรอดูว่าในสัปดาห์นี้ หากพรรคอนาคตใหม่ แจ้งกกต.ว่า องค์ประชุม และมติขับ 4 ส.ส.ถูกต้อง ก็ต้องมีการพิจารณาว่า จะต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่าการที่ “ศรีนวล-พ.ต.ท.ฐนภัทร” ยังไม่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด เนื่องจากยังไม่ได้รับหลักฐานการถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ จะถือว่าทั้ง 2 คนสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.แล้วหรือไม่
หรือ หากรายงานไปว่า องค์ประชุมไม่ครบถ้วน ทำให้มติขับ 4 ส.ส.ไม่ถูกต้อง จะทำให้ น.ส.กวินนาถ และ นายจารึก ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไท แล้ว กลายเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อน 2 พรรคการเมือง ต้องลบชื่อออกจากทั้ง 2 พรรค และมีผลทำให้ต้องสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.หรือไม่
จนถึงขณะนี้ ปัญหาทั้งหมด ยังไม่ได้ข้อยุติชัดเจน เป็นหน้าที่ของ กกต.จะพิจารณา แต่ที่สำคัญ เรื่องที่เป็น ประเด็นใหญ่ ที่ทุกฝ่ายกำลังติดตามคือ การพิจารณา ชี้ขาด จะ”ยุบพรรค” อนาคตใหม่ จาก ศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 ม.ค.2563
หาก ศาลรธน.ฟันธง เชือด ด้วยการ ยุบพรรค อนาคตใหม่ ปัญหา 4 งูเห่า ก็จบลงโดยปริยาย ไม่ต้องเสียเวลา คิดให้ เสียสมองอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบ สถานการณ์ นับจากนี้ หาก อนาคตใหม่ ถูกยุบ สส.ที่เหลือทั้งหมด จะต้อง แยกย้าย หาพรรคใหม่สังกัด ซึ่งขณะนี้ มีบรรดาพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายค้าน และ รัฐบาล ต่างพร้อมอ้าแขน เปิดประตูต้อนรับ
ประเด็นอยู่ที่ว่า ใครจะมี ข้อเสนอ เงื่อนไข ดีกว่ากัน ขณะเดียวกัน ต้นสังกัดเก่า คือ อนาคตใหม่ จะมีแผนรองรับ อย่างไร ไม่ให้ เตลิดเปิดโปง ไปมากกว่าที่ผ่านมา !