ศอ.บต.นำสื่อ ตรวจด่าน ไทย-มาเลย์ ชี้ ไฟใต้ลดรุนแรง แต่ยังห่วง คน2สัญชาติ

ศอ.บต.นำสื่อมวลชน สำรวจความเป็นอยู่ ราษฎรจชต.ที่ บ้านบูเก๊ะตา จ.นราธิวาส พร้อมตรวจด่าน ไทย-มาเลเซีย เผยสถานการณ์ ไฟใต้ ลดลง แต่ยังมีความรุนแรงเกิดขึ้น

19 ม.ค.63  พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ สำรวจความเป็นอยู่ราษฎรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ด่านบ้านบูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส พร้อม กล่าวว่า ไทย-มาเลเซีย มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว จะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งพัฒนา 9 ด่าน

โดยเฉพาะที่ด่านบ้านบูเก๊ะตา ซึ่งมีขนาดพื้นที่ 262 ไร่ อยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาเป็นด่านเชิงเดี่ยวให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2563 อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการเวนคืนที่ดิน เพื่อก่อสร้างอาคารและจัดวางระบบต่างๆ ขณะที่พื้นที่ด่านฝั่งมาเลเซียได้ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทั้งนี้ หลังพัฒนาด่านฝั่งไทยเสร็จสมบูรณ์ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะมาเลเซียวางไว้ว่าจะเป็นด่านสำคัญของการนำเข้า-ส่งออกสินค้าของมาเลเซียเช่นกัน

นอกจากนี้ด่านดังกล่าวจะเป็นจุดที่นำไปสู่การเชื่อมต่อกับเมืองต่างๆในมาเลเซีย  เป็นประโยชน์ต่อการขนส่งสินค้าผ่านทางรถบรรทุก อย่างไรก็ตาม ถ้าเศรษฐกิจในพื้นที่บ้านบูเก๊ะตาฟื้นขึ้นมาได้ ก็จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ด้วยเช่นกัน

ภาพรวมสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตัวเลขความถี่ของความรุนแรงลดลงค่อนข้างมาก เนื่องจากศักยภาพการทำหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงที่จำกัดความเป็นเสรีภาพของผู้ก่อเหตุ นอกจากนี้ ยังมีมิติการพัฒนาส่งผลให้คนรุ่นใหม่ในสถาบันการศึกษามีส่วนร่วมในกิจกรรมกับภาครัฐมากขึ้นตามลำดับ ทำให้เกิดพื้นที่สันติสุขขนาดเล็กเชื่อมโยงกันหลายแห่ง

อย่างไรก็ตาม เลขาฯ ศอ.บต.ยอมรับเหตุการณ์ความรุนแรงยังคงเกิดขึ้น ซึ่งจะต้องใช้เวลาบังคับใช้กฎหมาย ยืนยันฝ่ายความมั่นคงมีความตั้งใจทำงาน ส่วนบุคคลหัวรุนแรงสองสัญชาติ ทางไทยได้ทำการรวบข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถติดตามตัวได้  โดยส่งข้อมูลประสานให้ประเทศเพื่อนบ้าน ช่วยติดตามอย่างเต็มที่