“ธิดา”ชี้! ยุทธศาสตร์ ระบอบ “อำมาตย์” ไม่เปลี่ยน จ้อง ทำลาย”ทักษิณ-ธนาธร”

“ป้าธิดา” ชี้ เป้าหมายยุทธศาสตร์ “อำมาตย์” ไม่เคยเปลี่ยน ย้อนอดีต พุ่งเป้า ทำลาย “อ.ปรีดี” ที่เป็น เสือตัวเก่า แต่ วันนี้ มี เสือตัวใหม่ ที่ เก่งกว่า ตั้งแต่ยุค  “ทักษิณ” พรรคเพื่อไทย จนมาถึง นปช. และสุดท้าย คือ  “ธนาธร” และ อนาคตใหม่ 

13 ธ.ค. 62 เฟซบุ๊กเพจ “ยูดีดีนิวส์” โพสต์ความเห็น นางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็๗การแห่งชาติ(นปช.) โดยมีเนื้อหาดังนี้ …เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของระบอบอำมาตย์ฯ ไทย ที่ไม่เปลี่ยน!!!

ปรากฏการณ์ในกรณีที่ กกต. ชงเพื่อให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ผลจะเป็นอย่างไรอันนั้นก็น่าจะทำนายได้ ดิฉันจะไม่พูดถึง แต่ดิฉันอยากจะเริ่มด้วยเรื่องราวที่ทำให้เราไม่แปลกใจถ้าเราเข้าใจปัญหาความขัดแย้งที่เข้าสู่หลักทฤษฎี

ในกรณีนี้ดิฉันจึงต้องพูดประเด็นว่า ระบอบอำมาตย์ฯ ไทย ที่เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ไม่เคยเปลี่ยน ก็คือยุทธศาสตร์ที่ยังไม่คืนอำนาจให้กับประชาชน  ไม่ต้องอมพะนำ เหมือนที่ดิฉันพูดในโรงเรียนนปช. ก็คือ “ยิงศรต้องมีเป้า”

หมายความว่าระบอบอำมาตย์ฯ ไทยต่อสู้เพื่อให้มีอำนาจอยู่ยาวนาน เป็น การทำลายล้าง ของการกำจัด ปรากฏการณ์วันนี้มันแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ดิฉันจำเป็นต้องพูดออกมาตรง ๆ ก็คือ คุณธนาธร คือ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในยุคใหม่ (ยุคนี้) นั่นเอง

ถ้าเราพูดถึงเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในอดีต นับจากมีการเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครอง 2475 เป็นต้นมา เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของระบอบอำมาตย์ฯ คือ “กบฎบวรเดช”  หรือ การกำจัด อ.ปรีดี คือ ตัวแทน “คณะราษฎร” และ บุคคลที่สำคัญที่สุดก็คือ อ.ปรีดี พนมยงค์

เป้าที่สามคือนายทุนที่เขาขนานนามว่า “นายทุนสามานย์” ก็คือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร และคณะ ซึ่งหมายถึงพรรคไทยรักไทย รวมทั้งผู้สนับสนุนทั้งปวง และในนี้ก็รวมคนเสื้อแดง, นปช. นี่คือเป้าหมายทางยุทธศาสตร์รุ่นที่ 3 ซึ่งยังกำจัดได้ไม่หมด แต่ในทันใดนั้นก็เกิดปรากฏตัวของเสือตัวใหม่ เป็นเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่ 4

เป็นเสือตัวใหม่ซึ่งดูจะน่ากลัวกว่าเสือตัวเก่า เพราะเชื่อมโยงกับเยาวชนและคนรุ่นใหม่ ตลอดจนปัญญาชนและคนจำนวนหนึ่ง ซึ่งเคยปฏิเสธ ดร.ทักษิณ ชินวัตร แต่เขาสามารถยอมรับคุณธนาธร, ยอมรับพรรคอนาคตใหม่ การยอมรับอันนี้หมายความว่า เกิดแนวร่วมผู้รักประชาธิปไตยและต่อต้านการสืบทอดอำนาจที่ขยายตัวกว้างขวางใหญ่โตขึ้น

ดิฉันมองว่าปรากฏการณ์ครั้งนี้ ที่มีการจัดการโดย กกต. ไม่เป็นที่หน้าแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีแพลมมาแล้วที่คุณช่อ พรรณิการ์ และหลายคนออกมาพูดในประเด็นที่ว่า เขาเรียกว่า “ธง” แต่ไม่เรียกว่า “ธง” ก็ได้ หมายความว่า ตั้งแง่คิด เพราะ กกต. เองก็ยอมรับว่า กกต. ไม่ได้มีมติตอนนั้น แต่เป็นการให้ความคิดทางกฎหมาย หรือบางคนก็ถือว่า ตั้งธงทางกฎหมาย ก็ได้ ก็แปลว่าที่เขียนออกมานั้นก็จริง และ ณ วันนี้ก็จัดการแล้ว โดยที่อ้างมาตรา เมื่อมีการยุบพรรค ก็ต้องลงโทษกรรมการบริหารตามมาก็ต้องตัดสิทธิ์ ยังไม่รู้คดีอาญาอย่างอื่นต่อไปอีกหรือเปล่า?

แต่ว่าชะตากรรมของคุณธนาธร, คุณปิยบุตร, คุณพรรณิการ์ และรวมทั้งอนาคตใหม่ คุณปิยบุตรเคยบอกว่าเป็นหนังม้วนเก่า หรือละครแบบบ้านทรายทอง แล้วก็เปลี่ยนตัวละครไปเรื่อย แต่ดิฉันพูดให้ตรง ๆ เลยว่า

“เป้าหมายทางยุทธศาสตร์นั้นมันมีเป็นยุค ยุคของ ดร.ทักษิณ ยังคาบเกี่ยวกันอยู่ ก็มามียุคของธนาธร

ซึ่ง ฐานของคณะราษฎร ฐานของความคิดฝ่ายซ้าย ฐานของสิ่งที่ดร.ทักษิณและพรรคไทยรักไทยทำมา และฐานที่คุณธนาธรทำนั้น มันยังเป็นถนนสายเดียวที่ต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตย คนอาจจะหาย อาจจะตาย อาจจะติดคุก แต่ว่าความคิด อุดมการณ์ ถูกสืบทอดมาเป็นลำดับ

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยที่ระบอบอำมาตย์ฯ ไทย เครือข่ายอำมาตย์ฯ ไทย ยังไม่เปลี่ยน