“สุวัจน์” แนะ “ลุงตู่” ต้อง ปรับ ครม. แก้ ปัญหา เสียง ปริ่มน้ำ

“สุวัจน์” หนุน รัฐบาล ปรับครม. แก้ ปัญหา เสียงปริ่มน้ำ ชี้ อย่างน้อย ต้อง 200 เสียงขึ้นไป เพื่อสร้างความมั่นใจ นักลงทุน เตือน รัฐบาล พ่ายโหวต บ่อยครั้งไม่ดี แต่ปัดตอบ ควร จะปรับ ครม.อย่างไร ดึงใคร “เข้า-ออก”  

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา แกนนำพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.นครราชสีมาถึงสถานการณ์การเมืองที่มีการจับตาการปรับ ครม. โดยเฉพาะปัญหา “งูเห่า” พรรคร่วมรัฐบาลที่ควรจะแก้นั้นว่า เรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลมีความสำคัญ เพราะถ้ารัฐบาล มีเสถียรภาพก็ก่อให้เกิดความเชื่อ นักลงทุนก็อยากมาลงทุน การท่องเที่ยวก็ดี ฉะนั้นถ้าเราสามารถที่จะสร้างเสถียรภาพของรัฐบาลและในสภาฯให้เกิดขึ้นได้เป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้รัฐบาลสามารถทำงานในการแก้ไขปัญหาต่างๆให้ลุล่วงไปได้

ส่วนกระแสปรับ ครม.ไม่ทราบว่าจะมีการปรับหรือไม่ปรับ แต่ถ้าเกิดว่าอะไรก็แล้วแต่ ที่สามารถทำให้มีเสียงในสภาฯเพิ่มขึ้น ตอนนี้สมมุติอย่างเป็นทางการของรัฐบาลประมาณ 253 เสียงตั้งแต่ตอนจัดรัฐบาล 253-254 เสียง ถือว่ามาร์จิ้นค่อนข้างต่ำก็เลยมักจะพูดกันว่ารัฐบาลเสียง”ปริ่มน้ำ” ฉะนั้นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเวลานักลงทุนเขาฟังดูเขาก็กังวลในความต่อเนื่องของรัฐบาล ฉะนั้นถ้าเกิดมีอะไรที่ทำให้รัฐบาลมีเสียงมากขึ้นมันจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ เพราะเสถียรภาพในสภาฯ ก็คือเสถียรภาพของรัฐบาล เสถียรภาพของรัฐบาลก็คือเสถียรภาพของประเทศ ฉะนั้นการปรับ ครม.ตนไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร แต่อะไรที่ทำให้รัฐบาลมีเสียงในสภาฯเพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้มีเสถียรภาพของรัฐบาลมากขึ้นที่จะเป็นผลดีของประเทศ

ส่วนเรื่องการแพ้โหวตในสภาฯอยู่บ่อย พรรคร่วมคุมเสียงไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ต้องสานสัมพันธ์จัดงานเลี้ยงซดหูฉลามนั้น นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า ถ้าเกิดแพ้โหวตบ่อยๆก็ยิ่งทำให้รัฐบาลขาดความมั่นใจ เหมือนกับเสียงปริ่มน้ำด้วย ถ้าเกิดเรารักษาเสียงปริ่มน้ำไว้ อย่างเรามี 254 เสียง โหวตทีไรเราก็อยู่ที่ 254 เสียงได้อันนี้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเราแพ้เสียงในสภาฯบ่อยๆ หรื อบ่อยครั้งมันทำให้เกิดการขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพ ฉะนั้นพอเราขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพมัน ก็จะกระทบเรื่องเศรษฐกิจด้วย คิดว่ารัฐบาลโดยพรรคร่วมรัฐบาลต้องพยายามที่จะมีความใกล้ชิดกันในการที่จะรักษาเสียงให้ครบถ้วนอยู่ตลอดเวลาเป็นเรื่องจำเป็น แต่ถ้าเกิดมีการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดเสียงในสภาฯมากขึ้นมันก็เป็นผลดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

ส่วนเรื่องที่รัฐบาลจะดึงเอา งูเห่าฝ่ายค้านเข้ามาเติมเสียงให้รัฐบาลนั้น ตนคิดว่าตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เนื่องจากตอนจัดตั้งรัฐบาลตอนนั้นเหมือนกับการเมืองเราแบ่งเป็น 2 ค่าย 2 ขั้วอย่างชัดเจน ฉะนั้นมันก็เป็นความยากลำบาก ตั้งแต่ตอนจัดรัฐบาลกันแล้ว ซึ่งจะเห็นกันว่าช่วงนั้นก็ใช้เวลานานและเสถียรภาพก็ไม่พอ

“ผมคิดว่าจริงๆแล้ว สมมุติ 500 เสียง ถ้าจะทำให้รัฐบาลราบรื่น และดำเนินงานตามนโยบายต่างๆให้พี่น้องประชาชนมีความสุข อย่างน้อยๆก็ต้องมีใกล้ๆสัก 300 เสียงจากการเมืองในอดีต แต่วันนี้เสียงค่อนข้างน้อยมากจริงๆ แต่ถ้าเกิดรัฐบาลสามารถที่จะปรับ ครม.แล้วก็มีเสียงมาสนับสนุนรัฐบาลมากขึ้นได้ก็เป็นเรื่องที่ดี กับ เสถียรภาพของรัฐบาลด้วย และผมเชื่อว่าทุกคนก็จะมีความมั่นใจ แต่ในเรื่องนี้ผมไม่ทราบในรายละเอียดว่าจะปรับ ครม.หรือจะมีพรรคใดเข้ามาเพิ่มผมไม่ทราบ แต่อะไรที่ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเป็นบวก เป็นบวกต่อการแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ” นายสุวัจน์กล่าว