“บิ๊กตู่” เปิดอก ทวงสัญญา พรรคร่วมรัฐบาล หลังพ่ายโหวต ญัตตติ ขอแต่งตั้ง คณะ กมธ.ศึกษาผลกระทบจาก คำสั่ง คสช. เผยตนเองเป็น “ทหารเก่า” ย่อมถือ สัจจะ เป็นสำคัญ ชี้ อย่าเล่นการเมืองแบบเดิมๆ
28 พ.ย.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีสภาฯล่ม เป็นครั้งแรก หลังจากรัฐบาลแพ้โหวตการพิจารณาญัตติขอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศ และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ การใช้อำนาจของหัวหน้าคสช. มาตรา 44 ว่า เป็นเรื่องธรรมดา ตนก็ได้ติดตามการประชุมสภาฯเห็นว่าส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหลายคนติดงานราชการอยู่ ทำให้มาโหวตไม่ทัน ถ้ามีการโหวตใหม่ก็ว่ากันไปกันตามกลไกของสภาฯ ไม่ใช่เรื่องของความไม่มั่นคง เพราะเชื่อว่ามีความมั่นคงอยู่
“ผมเป็นทหารเก่า เพราะฉะนั้นสัญญาลูกผู้ชาย และความเป็นสุภาพบุรุษสำคัญที่สุด การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆ รัฐบาลทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ต่อสู้ทางการเมืองอย่างเดียว หรือจะมองอนาคตเฉพาะการเลือกตั้ง ซึ่งก็ยังมาไม่ถึงตอนนี้ ถึงเวลาค่อยว่ากันอีกที แต่ตอนนี้บ้านเมืองกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคง ปัญหาความขัดแย้งของสงครามการค้า แล้วเราจะไม่ให้ความสำคัญเรื่องเหล่านี้เลยหรือ โจมตีกันไปมาไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งสิ้น แม้กระทั่งกับพรรคการเมืองของตัวเองก็ไม่เกิด และเชื่อว่าประชาชนตัดสินใจได้เองในการเลือกตั้งครั้งหน้า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการทำงานอย่ามองว่ารัฐบาลสอนให้คนขี้เกียจ แต่ต้องมองคนที่เขาไม่มี รวมถึงจะทำอย่างไรกับสินค้าที่ผลิตมาวันนี้ ถ้าไม่มีคนซื้อโรงงานก็ปิด ใครเดือดร้อน แรงงานก็ต้องเลิก ไม่มีงานทำ มันพันกันไปทั้งหมด จึงอยากให้ความสนใจเรื่องเหล่านี้ โดยทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ควรเสนอมาว่าจะต้องทำอะไร ถ้าโจมตีกันมันไม่ได้อะไรขึ้นมา จะเห็นว่าสภาฯของเรา ส.ส.ของเรามีคุณภาพมากยิ่งขึ้นในวันนี้ ในอนาคตอย่างที่ทุกคนคาดหวังคืออยากให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งตนก็ได้ผ่านช่วงเวลานั้นมาให้แล้ว ฉะนั้นก็ต้องปรับตัวเองใหม่เหมือนกัน เราทำอะไรแบบเดิมๆไม่ได้แล้ว ทำการเมืองแบบเดิมๆ ไม่ได้มันไม่ยั่งยืน