ประเทศไทย ไม่มีรัฐมนตรีแบบคุณซูซี่ ปูด์เจียสตูตี้” จากคนขายปลาเค็ม เรียนไม่จบ มาเป็นรัฐมนตรีจอมลุย
ถ้าถามคนไทยว่ารู้จัก “คุณซูซี่ ปูด์เจียสตูตี้” มั้ย รับรองไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่ถ้าถามคนอินโดฯ และคนไทยที่ทำประมงที่อินโดฯ ชื่อนี้รับประกันความแซ่บ ความเผ็ด
คุณซูซี่ อายุเพิ่ง 53 เป็นรัฐมนตรีกิจการพาณิชย์นาวี และการประมงของอินโดนีเซีย เป็นรัฐมนตรีคนเดียวที่ไม่จบชั้นมัธยม เป็นหม้าย เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นประธานบริษัทส่งออกอาหารทะเลอันดับต้น ๆ ของประเทศ เป็นประธานสายการบินชาร์เตอร์ “ซูซี่แอร์” เป็นมุสลิมที่สักลาย ไม่คลุมผม ดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล และสูบบุหรี่วันละซอง
คุณซูซี่เป็นคนชวา แต่ไปเกิดที่ปังงันดารัน ถิ่นของคนซุนดา เธอเรียนหนังสือไม่จบ เพราะโดนไล่ออกจากโรงเรียน ที่โดนไล่ออกไม่ใช่เพราะเธอโง่หรือเกเร แต่เพราะเธอไปเดินขบวนประท้วงเผด็จการซูฮาร์โต้ ตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น !
ผลงานที่คนอินโดฯ และประมงไทยจดจำเธอได้ไม่ลืม คือ เธอสั่งให้กวาดล้างเรือประมงต่างชาติในน่านน้ำอินโดทั้งหมด ที่มีมากถึง 5,000 ลำ จับได้ยึดอุปกรณ์ เนรเทศลูกเรือกลับบ้าน เอาไต้ก๋งขึ้นศาลดำเนินคดี ถ้าพิสูจน์ว่าผิดจริง คนติดคุก และเรือถูกระเบิดทิ้งทันที เหมือนการประหารกลางเมือง ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
เธอระเบิดเรือไปแล้วเป็นร้อยลำ เวียตนาม 276 ลำ ฟิลิปปินส์ 90 ลำ และ ไทย 50 ลำ ไม่ว่าต่างชาติจะพยายามเจรจาอย่างไร เธอไม่สน ระเบิดเรือเล่นเป็นงานอดิเรก ตอนแรกคนก็ด่าเธอว่าป่าเถื่อน แต่ก็ปรากฎว่าหลังการระเบิดเรือ ปริมาณการจับปลา และปริมาณการส่งออกของอินโดเพิ่มขึ้นทันทีเกือบร้อยเปอร์เซ็น
เวลาเธอทำงาน ติดดินยิ่งกว่าเจ้สะพานปลา ลุย ๆ อยู่กับความเค็ม และกลิ่นคาวทะเล ขึ้นเรือรบตามจับเรือประมงต่างชาติกับทหารเรือเลย เหนื่อย ก็เอาหนังสือพิมพ์มาปูนอนดูดยาอยู่บนดาดฟ้าเรือ กินง่ายนอนง่ายไม่ VIP ไปประชุมสภาก็ใส่รองเท้าวัยรุ่น ใครถามถึงรอยสัก เธอก็ถลกกระโปรงให้ดูตรงนั้นเลย
ฝ่ายตรงข้าม และฝ่ายเคร่งศาสนา กัดจิกเธอตลอด ถึงความรั่ว ความไม่สำรวม ความไม่เคร่ง ของเธอจนมีคนส่งของขวัญวันเกิดไปที่บ้านเป็น “ฮิญาป” พวกเด็ก ๆ ทนไม่ไหว ทำสื่อเชียร์เธอในอินเตอร์เนตว่า
“คนที่ดูไม่เคร่งศาสนา หัวใจใหญ่กว่าพวกปิศาจคาบคัมภีร์เยอะ”
เด็กข้างถนนพ่นกราฟิตี้ใส่กำแพงเป็นรูปเธอในชุด wonder woman
อะไร ? ที่หล่อหลอมเธอมาให้เป็นแบบนั้น
คุณซูซี่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนตอนมัธยมปลาย เพราะไปร่วมเดินขบวนขับไล่ซูฮาร์โต้ เมื่อโรงเรียนไม่ต้องการเธอ เธอก็เรียนเอง ออกมาเรียนมหาวิทยาลัยชีวิต ทำงานอยู่สะพานปลา แต่งงานครั้งแรก ได้ผัวเฮงซวยเธอก็หย่าทันที แล้วอุ้มลูกไปซื้อปลาต่อ ยามลำบากไม่มีเงินแม้จะซื้อนมให้ลูก เธอถอดกำไลทองที่พ่อแม่ซื้อให้เป็นทุนทำธุรกิจ
ตอนซื้อเครื่องบินมาทำชาร์เตอร์ขนส่งสินค้า และอาหารทะเลก็ร่อแร่ เจียนอยู่เจียนไป เกิดสึนามิ ที่อาเจะห์ เธอเอาเครื่องเซสน่า ขนของเอาไปบริจาคช่วยคนด้วยความเห็นใจ รัฐบาลให้งบเธอขนสินค้าไปส่งอาเจะห์เจ้าเดียวเลย จากร่อแร่กลายเป็นรวยยยยยย ไม่ทันตั้งตัว
ตอนมาเป็นรัฐมนตรี เธอก็ไม่ได้เล่นการเมืองมาก่อน นั่งขายปลา ตัวเค็มอยู่ดี ๆ คุณโจโควี่ เดินมาหา บอกว่า “เจ้ มาเป็นรัฐมนตรีประมงให้ผมหน่อย”
แล้วเธอก็ไม่ทำให้โจโควี่ และคนอินโดผิดหวัง
เจ้จึงไม่ต้องแคร์ใคร เพราะตอนเจ้ลำบากไม่มีหมาที่ไหนมาให้ความช่วยเหลือ ไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณใคร ให้ต้องตอบแทน
ขอบคุณข้อมูลดีๆ
Cr.Ekkawit Sudanich