“เทพเทือก” ยืนยัน รธน.ฉบับนี้ ดีแล้ว ไร้เหตุผลต้องแก้ไข ชี้ผ่านประชามติคนไทย16ล้านคนแล้ว ปัดตอบ “มาร์ค”เหมาะนั่ง ปธ.กมธ. พร้อมย้ำ ถ้าจะแก้ก็ทำได้ แต่ ขออย่างเดียว ไม่เอาระบบมลรัฐ ห้ามแบ่งแยก ประเทศไทย
วันที่ 10พ.ย.62 ที่อาคารทูแปซิฟิคเพลส ถนนสุขุมวิท นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (กปปส.) ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหว การแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จุดยืนของตนยังชัดเจนว่า สนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะเป็นผู้รณรงค์ให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ และ เป็น 1 ใน 16 ล้านคนที่ลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งส่วนตัวยังมองไม่เห็นความบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่เห็นถึงความบกพร่องของคนมากกว่า และ ยังคงศรัทธาในหลักการของรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นคุณเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแก้ไขไม่ได้
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าประเด็นที่มาและอำนาจหน้าที่ของส.ว.เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตยนั้น อย่ามองเพียงแค่ส.ว.ชุดปัจจุบัน เพราะเป็นข้อยกเว้นช่วง 5 ปีแรกในรัฐธรรมนูญ แต่ในหลักการบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับส.ว.เขาเขียนไว้ดีแล้ว ทั้งนี้ ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจ แต่อยากจะได้ยินว่าประเด็นอะไรที่ติดขัด ซึ่งบางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับราชอาณาจักรไทย จะต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียว แบ่งแยกไม่ได้ หรือ ประเด็นที่เสนอเป็นมลรัฐนั้น หากมีการเสนอแก้ไขแบบนั้น ตนยืนยันไม่เอาด้วยแน่นอน
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณี พรรคประชาธิปัตย์มีมติเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานกรรมาธิการฯ นั้น ตนไม่ขอแสดงความเห็น เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา ส่วนตัวไม่ขัดข้องหากใครจะมาเป็นประธานกรรมาธิการฯ แต่ให้ความสนใจเนื้อหาสาระ ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยคุณสมบัติประธานกรรมาธิการฯ ต้องมีความเป็นกลาง ไม่สนับสนุนหรือคัดค้านรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งอยู่ในใจ
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์คัดค้านรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตั้งแต่ต้นนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ได้พูดถึงนายอภิสิทธิ์ ขอสื่อมวลชนว่าอย่าพยายามเอาตนไปชนกับนายอภิสิทธิ์ แต่หากเราได้คนที่มีความเป็นกลาง จะได้มุมมองการแก้ไขและธรรมนูญที่กว้างพอที่จะรับฟังความเห็นของคนอื่นได้มากขึ้น
นายสุเทพ ยังกล่าวถึง กรณีมี นายมีชัย ฤชุพันธ์ และ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นตัวเลือก ประธาน กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ โดยอยู่ในสัดส่วนคนนอกนั้น ขออย่าหวั่นไหวกับข่าว เชื่อว่าหลังจากนี้จะยังคงปรากฏชื่ออีกหลายบุคคล และมั่นใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่ใช่ชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่ ประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศที่ดีขึ้น และหลายคนคงไม่เสียเวลากลับไปสู่วังวนความขัดแย้งอีกครั้ง ที่สำคัญ เรามีรัชกาลที่ 10 เป็นศูนย์รวมให้คนไทยรวมพลังและเดินไปข้างหน้าด้วยกันได้