“บิ๊กตู่” ยัง ไม่ประกาศ “เคอร์ฟิว” แต่ขอ คุมเข้ม “ชายแดนใต้”หลังชรบ.ยะลาดับ15ศพ

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ประชุม กอ.รมน. ยันไม่ประกาศ”เคอร์ฟิว” แต่ช่วงนี้ ห้ามข้ามแดน หลังกลุ่มก่อร้ายใช้กำลังถล่ม ชรบ.ยะลาดับ15ศพ เผยจนท.เร่งทำงานเต็มที่แล้ว แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิ์ของประชาชน

วันที่ 8 พ.ย.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.รมน. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรครั้งที่ 2/2562 ว่า ได้มีการสรุปการดำเนินงานปี 2562 และแนวทางการปฎิบัติงานในปี 2563  ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้  และ ประกาศใช้มาตรการห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถาน หรือ เคอร์ฟิว ภายหลังเกิดเหตุกราดยิง ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ที่ จุดตรวจ ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เสียชีวิตจำนวน 15 นาย แต่หากทำจะกำหนดเวลาให้สั้นที่สุด ช่วงนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน และ สั่งห้ามประชาชนข้ามเขตแดน เป็นเรื่องสำคัญ เพราะต้องใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุ ขณะนี้มีข้อมูลแล้ว ทั้งปืนและกระสุน ว่า เป็นกลุ่มใดเป็นผู้ก่อเหตุและเกี่ยวข้องบ้าง เพื่อนำมาพิจารณาร่วมกัน

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่า จะมีความคืบหน้าในเร็ววันนี้  เมื่อคนร้ายใช้กลยุทธ์การก่อการร้าย เพื่อกดดันการทำงานของรัฐ รัฐบาลก็ต้องไม่คล้อยตาม เพราะต้องการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ทั้งการบังคับใช้กฎหมายและการพัฒนาพื้นที่ควบคู่ ซึ่งจะดีกว่าเพราะหากตีความผิดเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นและส่งผลกระทบต่อคนในพื้นที่ แต่คนที่มักจะมีปัญหาคือคนที่ไม่อยู่ในพื้นที่ ที่ มองเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน และยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดต้องการละเมิดสิทธิดังกล่าว แต่อยากให้ย้อนดูสิ่งที่ผู้ก่อเหตุทำ ว่าละเมิดลิขสิทธิ์คนในพื้นที่หรือไม่ อีกทั้งยังออกมาเคลื่อนไหวให้รัฐบาลยกเลิกในเรื่องต่างๆ ส่วนตัวก็อยากทราบ ทำไปเพื่ออะไร

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึง กระบวนการพูดคุยสันติสุขฯ กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ว่า มาเลเซียเป็นผู้ประสานงาน มีการรายงานกลับมาทุกครั้ง เพื่อปรับปรุงและพูดคุยกับผู้ที่มีบทบาทอย่างแท้จริงเพื่อทำให้ชายแดนภาคใต้มีความสงบสุขอย่างยั่งยืน โดยมีการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุหมดแล้วแต่บางกลุ่มก็ไม่อยากเข้ามาร่วมวงพูดคุยด้วย ทางรัฐบาลจะยังคงใช้วิธีการเดิมๆ คือใช้เวทีต่างประเทศในการพูดคุยเนื่องจากบังคับใครไม่ได้ และคนเหล่านี้ยังปลอมแปลงและปะปนกับประชาชน

นายกฯ ระบุต่อว่าในวันนี้ได้มีการสั่งการในที่ประชุมทั้งเรื่องการใช้อาวุธและกฎหมายที่ต้องไม่ละเมิดสิทธิ์ของประชาชน และขณะนี้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร พร้อมทั้งฝึกทบทวน และหาวิธีการใหม่ปรับกลยุทธ์ให้รัดกุมมากกว่าเดิมทั้งแหล่งเดินทางเข้าออกและให้กวดขันในปี2563 มากยิ่งขึ้น