ผวจ.ยะลา เรียกฝ่ายมั่นคง หามาตรการป้องกัน เหตุความไม่วงบ สรุปเบื้องต้น เยียวยา 15 ชีวิต เหยื่อไฟ 7.5ล้าน ขณะ ผบ.ทบ.กำชับ แม่ทัพภาค4 เร่งติดตามผู้ก่อเหตุ เข้มข้น มาตรการรักษาความปลอดภัย พี่น้องประชาชน ทั้ง พุทธ และ มุสลิม
นายเจษฎา จิตรัตน์ รองผวจ.ยะลา กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายยิงป้อม ชรบ. ลำพะยา จังหวัดยะลา เมื่อคืน วันที่ 5 พ.ย. 62 ได้สร้างความสูญเสียให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะครอบครัวของผู้เสียชีวิต 15 ราย และมีบาดเจ็บ 5 ราย ซึ่งในเบื้องต้นได้หาแนวทางช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด ล่าสุดขณะนี้ได้ข้อยุติแล้วตามหลักเกณฑ์เยียวยาและความช่วยเหลือด้านอื่นๆ เบื้องต้น สำหรับผู้เสียชีวิต 15 รายๆละ 500,000 บาท รวมทั้งหมด 7.5 ล้านบาท ส่วนผู้ได้รับบาด ผวจ.ยะลา ได้เดินทางไปเยี่ยมที่ในโรงพยาบาลที่รักษาตัวแล้ว ส่วนจะมีการเยียวยาอย่างไรจะหารือให้ชัดเจนอีกครั้ง โดยเฉพาะ ประเด็นน มาตรการรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในทพื้นที่ ทั้งไทยพุทธและมุสลิม
ทางด้าน กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ที่มีพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุมว่า ผบ.ทบ.แสดงความเสียใจกับครอบครัวของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่เสียชีวิตจากเหตุร้ายที่เกิดขึ้น ณ จุดตรวจ ต.ลำพะยา พร้อมระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ห่วงใยและให้แนวทางการดูแลต่อเรื่องดังกล่าว ทั้งการติดตามผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย การดูแลผู้บาดเจ็บและเยียวยาผู้สูญเสีย รวมถึงการปรับเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัย โดย ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 เร่งดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งการช่วยสร้างความเข้มแข็งและสนับสนุนการปฏิบัติงานของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านในมิติต่างๆ ด้วย
ต่อข้อถามว่าเหตุใด เหตุการณ์ครั้งนี้จึงเกิดขึ้นรุนแรง พ.อ.วินธัย กล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามจับจ้องก่อเหตุตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งกอ.รมน.ภาค 4 สน. ต้องปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่มาเป็นอาสาสมัครดูแลหมู่บ้านพื้นที่ของตนเอง