“ชวน”บุกถิ่นเก่า ขึ้นเวที ปาฐกถา วันธรรมศาสตร์สามัคคี เปิดปูม รธน.ไทย ยุคอดีตถึงปัจจุบัน ชี้ กฎหมายไม่ผิด แต่ผิดที่ นักรัฐประหาร จะเขียน บทเฉพาะกาล เอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง โต้”มีชัย” อ้างรธน.ปี60 ทำเพื่อ ล้างคอร์รัปชั่น ยัน”ไม่เห็นด้วย” แต่ขอให้ค่อยๆแก้ อย่าล้มทั้งกระดาน
5 พ.ย.62- ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จัดงานวันธรรมศาสตร์สามัคคี ครั้งที่ 20 โดย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะ อดีต นศ.คณะนิติศาสตร์ มธ.ได้ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ความหวังสภาผู้แทนฯภายใต้รัฐธรรมนูญ2560” ตอนหนึ่งว่า ส่วนตัวมีความปรารถนาในการเป็นนักการเมืองมาตั้งแต่ต้น และ เป็นนักการเมืองมาแล้ว 50 ปี ส.ส.16 สมัย รัฐธรรมนูญปัจจุบัน เป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดโครงสร้างบ้านเมือง สภาถือเป็นองค์กรที่อาจมีการพัฒนาตัวเองน้อยที่สุด
นายชวน กล่าวว่า หากรัฐธรรมนูญใด ที่ออกมาหลังจากการยึดอำนาจ จะมีบทเฉพาะกาลตอนหนึ่งที่เขียนไว้ในลักษณะให้ผู้ที่กำหนดรัฐธรรมนูญฉบับนั้น ได้เป็นนายกฯต่อ เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร ได้เป็นนายกฯ มีเสียงส.ส.สนับสนุนจำนวนหนึ่งแต่มีเสียงส.ว.สนับสนุนจำนวนมาก เช่นเดียวกับสมัย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ และ เป็นแบบนั้นตลอด แต่บทเฉพาะกาลยุคนั้นจะมีระยะเวลาใช้ไม่นาน จะใช้ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น และ ปล่อยให้การเมืองเป็นไปตามกระบวนการตามปกติ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมรัฐธรรมนูญบางฉบับ ที่เริ่มต้นไม่ค่อยสวยนัก เช่น รัฐธรรมนูญพ.ศ.2521 แต่สามารถใช้ได้มาถึงปี 2534 ที่มีการยึดอำนาจ และก็มีรัฐธรรมนูญหลังจากนั้นที่ใช้มาถึงปี 2540 แต่สำหรับรัฐธรรมนูญปี 2560 จะมีอายุนานเท่าไร ไม่มีทางรู้
นายชวน กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญเป็นตัวกำหนดโครงสร้างของประเทศและอํานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อํานาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ยังได้กำหนดเรื่องหลักนิติธรรมลงให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะเรียนรู้มาจากบทเรียนที่เกิดขึ้นมาจากรัฐธรรมนูญ 2540 ที่มีการละเมิดหลักนิติธรรม รัฐธรรมนูญมีความสำคัญในแง่โครงสร้างก็จริง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นอันเป็นที่มาของการยกเลิกรัฐธรรมนูญไม่ได้มาจากจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญ
“เมื่อครั้งที่มีการร่างรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 ท่านสุพจน์ ไขมุกด์ รองประธานคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ได้เชิญผมไปพบเป็นส่วนตัวเพื่อขอความคิดเห็นและได้บอกท่านไปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาไม่ใช่ความผิดของรัฐธรรมนูญ แต่เป็นเรื่องของตัวบุคคลที่ละเมิดรัฐธรรมนูญและไม่ยึดหลักนิติธรรม ปัญหาการใช้รัฐธรรมนูญ และ การปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาไปควบคู่กัน พูดง่ายๆ คือ ปราชญ์โบราณที่คิดว่าบ้านเมืองจะปกครองได้ดีต้องปกครองด้วยราชาแห่งปราชญ์ กำหนด คุณสมบัติไว้สูงมาก ซึ่งในชีวิตจริงมันหายาก เพราะการปกครองที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์จริงๆจะต้องปกครองด้วยหลักนิติธรรม ถ้าผู้ปฏิบัติตามกฎหมายไม่ออกนอกหลักนิติธรรม จะไม่เกิดเหตุการณ์ รัฐประหาร 2549 คมช. และ ยึดอำนาจ 2557 โดย คสช.
นายชวน ยังเปิดเผยถึงการรับตำแหน่งประธานสภาฯ ว่า ส่วนตัวไม่คิดว่าจะมาเป็นประธานสภาฯ แต่ในเมื่อเป็นช่วงสุดท้ายที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงไม่มาก โดยปกติแล้วเขาจะไม่ให้ตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะประธานจะอยู่ที่พรรคใหญ่ที่สุด แต่เที่ยวนี้สำหรับนายชวน เขายกเว้นให้ และ ไม่คิดโควต้า ถ้าคิดโควต้า แล้วไปแย่งเพื่อนสมาชิกในพรรค ก็ คงจะไม่เอา เพราะเป็นการเอาเปรียบเพื่อน และในที่สุดคนที่จะเป็นประธานจริงๆ เขายอมรับว่าถ้าเป็นนายชวนเขายอมรับ จึงตัดสินใจมาทำงานร่วมกัน ทำให้สภาให้เป็นมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
“สภาฯต้องเป็นตัวอย่างของการเคารพกฎหมายและได้บอกสมาชิกสภาเสมอว่าต้องวางมาตรฐานของสภาให้เป็นที่ยอมรับให้ได้ และยังบอกกับนายกฯเสมอว่าต้องมาสภาและมาตอบกระทู้ เว้นแต่ท่านจะมีเหตุผล หรือถ้าคณะกรรมาธิการเรียกให้มาชี้แจง ก็ขอให้ท่านให้ความร่วมมือ และขอร้องไปยังคณะกรรมาธิการให้เข้าใจว่าคนมาชี้แจงไม่ได้เป็นจำเลยหรือเป็นผู้ต้องหา ต้องมีความพอดีถึงจะทำให้อยู่ด้วยกันได้ ”
ประธานสภาฯ กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญ 2560 นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ประกาศว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแก้คอรัปชั่น แต่จริงๆมันไม่ใช่ แม้รัฐธรรมนูญกำหนดโครงสร้างและเงื่อนไข แต่หากผู้ปฏิบัติละเมิดและไม่ปฏิบัติ ผลที่อยากให้เกิดขึ้นมันก็จะไม่เกิด
“ผมเป็นหนึ่งในคนที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำ แต่สิ่งแรกที่ควรจะทำ คือ อย่าเพิ่งไปหักด้ามพร้าด้วยเข่า ล้มให้หมดพังให้หมด มันไม่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เราต้องมาคุยกันว่าประชาธิปไตยในความปรารถนาของเราคืออะไร เราควรจะมีสภากี่สภา มีวุฒิสภาไหม หรือวุฒิสภาควรมีบทบาทอะไร ควรมาจากระบบแต่งตั้งหรือเลือกตั้งอย่างไร เพราะหน้าที่แต่ละคนไม่เหมือนกัน” นายชวน กล่าวตอนท้าย