ประธาน นปช.ออกโรง ฟันธง ชะตากรรม “ธนาธร “รอดยาก และ อนาคตใหม่ จะถูกยุบพรรค เป็นการ สกัดกั้น ศัตรูทางการเมืองของฝ่ายตรงข้าม ที่มีกระบวนการชัดเจนวางไว้แล้ว
วันที่ 1 พ.ย.62 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวมร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงอนาคตการเมืองของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกคดีครอบครองหุ้นสื่อสารมวลชน ซึ่งเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญนัดวินัจฉัยคดีในวันที่ 20 พ.ย.นี้ว่า เมื่อพิจารณาองคาพยพทั้งหมด ทั้งการชี้แจ้งข้อเท็จจริงต่อศาล การเปิดโอกาสให้สอบพยานแล้ว ผมเชื่อว่ารอดยาก โอกาสถูกตัดสิทธิ์การเป็น ส.ส. ค่อนข้างชัด
โดยย้ำว่า เป็นความเชื่อส่วนตัว นำประสบการณ์ทางการเมืองของตัวเองมาเทียบเคียง ซึ่งนายธนาธรกับตนถูกข้อหาฝ่าฝืนข้อห้ามการสมัคร ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญในมาตราเดียวกัน แต่คนละวงเล็บ และเปรียบเทียบว่า เมื่อการเลือกตั้งปี 2554 ตนติดคุกถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต้องการไปเลือกตั้ง แต่ไม่ได้รับอนุญาต หลังเลือกตั้งเสร็จ ตนได้รับเลือกเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลให้เป็น ส.ส.ในเดือนสิงหา ซึ่งเป็นคนที่ 500 ได้เป็น ส.ส.คนสุดท้าย
ถัดจากนั้นไม่นาน ถูกยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ถอนสิทธิ์เลือกตั้ง เหตุไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งการต่อสู้คดีในศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้รับโอกาสให้นำพยานมาสืบข้อเท็จจริง เพียงแต่ให้ยื่นเป็นเอกสารให้ศาลพิจารณาเท่านั้น “สิ่งที่น่าแปลกคือ ผมไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่ได้ซื้อเสียง ไม่มีกรณีทุจริตเลือกตั้ง ไม่ได้หาเสียง” ประธาน นปช.กล่าว
ส่วนกรณีนายธนาธร คือ ถูกกล่าวหาถือหุ้นสื่อนั้น ในที่สุด ก็จะถูกกระบวนการถอดถอนจากการเป็น สส.เช่นกัน ตนมีประสบการณ์ผ่านมาก่อนและเข้าใจกระบวนทางการเมืองวันนี้ มีหน้ากระดานชัดเจนเพื่อสกัดกั้นฝ่ายตรงข้าม
“ดังนั้น กระดานทางการเมืองเช่นนี้ จะคิดเป็นอื่นไม่ได้ และนายธนาธร จะหลีกเลี่ยงเดินตามเส้นทางเดียวกับผมไม่ได้ คือ ต้องพ้นจาก ส.ส. แต่จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองกี่ปี ขึ้นอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย”
นายจตุพร กล่าวว่า กระบวนการวินิจฉัยคดีในวันที่ 20 พ.ย. นี้ เป็นเพียงเรื่องส่วนบุคคลของนายธนาธร ยังไม่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่หลังจากนั้นจะมีการยุบพรรคตามมา ส่วนจะเกิดขึ้นด้วยเหตุการณ์อย่างไร แล้วบั้่นปลายจะจบกันแบบไหน คงคาดการณ์กันได้