“ดร.โจ” อดีตผู็สมัคร พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ FB ถล่ม “ไพร่หมื่นล้าน” ยับเยิน แฉ ก่อนเลือกตั้ง กับ หลังเลือกตั้ง พฤติกรรม เปลี่ยนไป แบ่งแยก ชนชั้น ยกย่องแต่ “สส.สอบได้” ส่วน “สส.สอบตก” เหมือนบุคคลชั้นต่ำ
29 ตุลาคม 2562 ดร.ชาญวิทย์ ใจสว่าง หรือ “ดร.โจ” อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chanwit Jaisawang เกี่ยวกับสถานการณ์ในพรรคอนาคตใหม่ มีเนื้อหาดังนี้
อนค.โกหกหลักการประชาธิปไตย
ไม่ขยะ ก็สนิม มีค่าแค่นี้ สำหรับคนที่เห็นต่างจาก อนาคตใหม่ คนภายนอกได้ยินกันแล้ว หัวหน้าพรรค เป็นคนพูดเองว่าใครคือ สนิม สำหรับภายใน โดนมามากแล้ว คนแล้วคนเล่า เขาดูถูกคนหน้าใหม่ทางการเมืองมาตลอด
95% กระแสธนาธร อีก 5% เป็นของ สส.เขต พูดกันหนาหูเหลือเกิน
คนข้างนอก อาจรู้สึกเหมือนไม่จริง เพราะจากภาพก่อนหน้านี้ เห็นกันว่อนโซเชียล นั่งพื้น นอนเสื่อ กินข้าวช้อนกลางคันเดียว บางคราวลากแตะหูหนีบ สะพายผ้าขาวม้า ขึ้นเครื่องเดินทาง
เหมือนไพร่หมื่นล้านเดินดินตัวจริง
ตอนอยู่ข้างนอก ผมก็เห็น เหมือนที่คนนอกเห็น แต่พอเข้าข้างใน จึงรู้ว่า เป็นคนไม่เห็นหัวคนจริงๆ เขาคิดแต่กำไร ขาดทุน และผลประโยชน์ เหนือสิ่งอื่นใด
ระบบชนชั้นข้างใน เป็นระบบอุปถัมภ์ เขาวางไว้หมดแล้ว และถูกนำมาแยกชั้นวรรณะอย่างจริงจัง หลังเลือกตั้งเป็นต้นมา จากสถานะผู้สมัคร ส.ส. ที่เคยเริ่มต้นเสมอกัน พอเปลี่ยนเป็นท่าน ส.ส. หลังการเลือกตั้ง พฤติกรรมพวกนี้ ออกลาย เริ่มแยกและยกสถานะที่ต่างกันทันที
งานเลี้ยงฉลองหลังเลือกตั้งแยกโต๊ะนั่งกินดื่มกัน เหมือนบ่าว ไพร่ ที่เกาะบ่าไหล่ ไม่ได้อีกแล้ว
ชนชั้นสูงถูกยกขึ้นสูงสุด ไขว่คว้าไม่ถึง โดยมีชนชั้น 2 ห้อมล้อม เป็นประภาคาร คอยสกัดกีดกันชนชั้น 3 ไม่ให้เฉียดเข้าไปใกล้โดยเด็ดขาด
ชนชั้นสูงสุด นี่ละ ที่เรียกว่า “มติพรรค” เสมอมา กินความแค่ คน 5 คน ทอน บุต ช่อ และ 2 ตอ
ชนชั้น 3 ที่ไม่อยากต่ำ อยู่อย่างไร้ค่า หลังแพ้เลือกตั้ง พยายามดิ้นหนี ขึ้นชั้นลอย ใกล้ติดชนชั้น 2 เหมือนปลาว่ายทวนน้ำ หนีความแห้งแล้ง แบบไหน แบบนั้น
จากนักต่อสู้เพื่อมวลชน ต้องการเป็น ผช.ส.ส. เลยต้อง “กุมไข่” รับใช้ จนเป็นที่ประจักษ์แก่ชนชั้น 2 เพื่อนำเสนอชั้นสูงสุดให้วางตำแหน่ง ผช.ส.ส. นี้ให้ได้ ที่ใดที่หนึ่ง ตามใจที่ข้างบนชี้ลงไปข้ามภาคข้ามจังหวัด
ที่เหลือ ที่ไม่ “กุมไข่” คือ ขยะ ที่เกิดจากการหล่อหลอมของพรรค ส่วนบุคคลภายนอกที่ไม่เลือก อนค. คือ “สนิม”
ผมเห็น บุคคลสองบุคลิกนี้ แล้วแทบไม่เชื่อว่านี้คือพรรคที่จะสร้างประชาธิปไตย
เริ่มต้นร่วมกันสร้าง ประชาธิปไตย แต่โครงสร้างถูกสร้างเป็นแท่ง “เผด็จการ” โดยบริหารจัดการกันแบบระบบอุปถัมภ์ห่อหุ้ม ผลลัพธ์ก็ต้องออกมาเป็นเผด็จการอย่างเดียว เป็นอย่างอื่นไปไปไม่ได้
ผมเห็นเป็นแค่“กระสือการเมือง” ที่หาอุดมการณ์ทางการเมืองไม่เจอ เหมือนกระสือที่ล่องลอย แขนขา ตัวตนไม่มีอยู่จริง
หลอกหลอนสร้างประชาธิปไตย กลับไปกลับมาได้ในคนคนเดียว
ผู้ที่ ไม่เคยเจอทั้งในรูป คน และกระสือ พร้อมกัน ย่อมลังเล เป็นธรรมดา แต่เชื่อเถอะมีคนเริ่มดูออกและจับพิรุธได้แล้วว่าแปลงร่างสร้างภาพได้อย่างน่ากลัว
640 ตำแหน่ง ผช.สส. ผชช. (ผู้เชี่ยวชาญ) เลขาฯ ที่บอกว่า คิดจากความสามารถ มีนักวิชาการมากมาย
ถ้ามันจริงดั่งบอก คนที่ไม่ได้ คงไม่หน้าด้านกล้าออกมาเรียกร้องการจัดสรรแบบนี้หรอก
เรามี “ยางอาย” เราอายคนเป็น ยิ่งความสามารถไม่ถึง เท่ากับเสียคนเล่นๆ ได้เลย
คัดสรรอย่างดี แต่ทำไมหนอ ผลออกมา ได้เฉพาะเพื่อนชนชั้นสูง ทั้งข้างใน มาจากข้างนอก ทั้งคนที่ไม่เคยร่วมหล่อหลอมมาก่อน ทะลักเข้ามาเต็มไปหมด
เจ้าหน้าที่(จนท.)พรรค ส่วนกลาง และจากสาขา ที่ทำงานอยู่ และที่ถูกส่งไปคุมสาขา กลับย้อนมาเป็นผู้มีความสามารถได้อย่างไร มากมายขนาดนั้น มีทั้งปัญหาคอรัปชั่นเงินสนับสนุนพรรค ชักเปอร์เซ็นต์ขายเสื้อผ้า สร้างบิลค่าใช้จ่ายเท็จในการทำกิจกรรมแต่ละเดือน
ทำไม ได้แต่ คนสอพลอ นี่คือคำถาม
ไม่ได้น้อยใจ เรื่องไม่ได้ตำแหน่งแล้วมาทำลายพรรค รู้สึกผิดหวังกับการจัดสรรหากันแบบนี้ แล้วอ้างความสามารถบังหน้าออกสื่อดูดี มันย้อนแย้งกับหลักการอย่างชัดเจน
ความสามารถ 640 คน เปิดให้ เห็นหน้าเห็นชื่อกันไปเลยดีไหม จะได้โชว์ภาพพรรคคุณภาพที่เต็มเปี่ยมไปเหล็กน้ำดีมากที่สุดในประเทศ
นี่หรือพรรคที่จะปราบคอรัปชั่น ให้ประเทศ ในเมื่อข้างใน แก้คอรัปชั่นตัวเองยังไม่ได้
นี่หรือพรรคจะเข้าไปแต่งตั้งโยกย้าย ขรก. อย่างเป็นธรรม ในเมื่อ บริหารภายในด้วยระบบอุปถัมภ์
นี่หรือพรรค มีอุดมการณ์เดียวกัน จะสร้างประชาธิปไตย แต่ปกครองแบบเผด็จการ
นี่หรือ ไพร่หมื่นล้าน จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศ ในเมื่อ ไทยซัมมิท ปิดพักกิจการ
แก้ปัญหาพนักงาน ไทยซัมมิท ให้เขาพ้นวิกฤตก่อนเถิดครับ กรรมาธิการงบฯ มีคนทำกันเยอะแล้วค่อยเป็นก็ได้
ในเมื่ออุดมการณ์ของพรรค คือ ร่วมกันอุ้มชูระบบเผด็จการ กีดกันการเห็นต่าง คงไว้ซึ่งระบบอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นระบบที่เหนี่ยวรั้งการพัฒนาประเทศตลอดมา ย้อนแย้งในหลักการประชาธิปไตยของตัวเอง เราจึงหมดศรัทธากับความใจคดของคุณ