120 อนาคตใหม่! ตบเท้า ลาออก ฉะยับ “ธนาธร-ปิยบุตร” ไม่รักษาคำพูด

อดีตผู้สมัคร-สมาชิก อนาคตใหม่ 120 ราย ยื่นลาออกจากพรรค ยกเหตุผู้นำพรรคไม่รักษาสัจจะ เปลี่ยนไปหลังเลือกตั้ง ทำอุดมการณ์สวนทางกัน ชี้ เรื่องเล็กยังทำไม่ได้ แล้ว จะทำเรื่องใหญ่เพื่อบ้านเมืองได้อย่างไร

วันที่ 28 ต.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนิพนธ์ แจ่มจำรัส อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 2 พรรคอนาคตใหม่ พร้อมอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 30 คน และสมาชิกพรรคอีกกว่า 90 คน ทยอยเข้ายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง  ระะบุว่า วันนี้เราต้องการสื่อให้เห็นว่า ความคิด อุดมการณ์ของเรากับพรรคอนาคตใหม่มีความแตกต่างกัน แต่เรายังรัก ปรารถนาดี และศรัทธาในนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้คิดร้าย หรือทำให้พรรคสั่นสะเทือน เราเข้าร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ในวันที่พรรคไม่ได้มีชื่อเสียง เป็นสมาชิกยุคบุกเบิกรุ่นก่อตั้งพรรค

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ พรรคอนาคตใหม่ มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับจากภาคส่วนต่างๆ  แต่เรามีความจำเป็นต้องเดินออกมา เมื่อความคิดและอุดมการณ์มีการเปลี่ยนไป พวกเราจึงขอออกมาเอง และไม่มีอะไรค้างคาใจหรือบาดหมางกัน ส่วนเส้นทางทางการเมืองหลังจากนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองอื่นใดติดต่อมา พวกเราคงจะกลับบ้านตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน

ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่ทำให้ทางกุล่มลาออก นายนิพนธ์ กล่าวว่า เรามีความคิดและอุดมการณ์ที่แตกต่างจากพรรคในปัจจุบัน ทั้งที่เราเข้ามาอย่างมีความตั้งใจจริง มุ่งหวังจะทำงานการเมืองให้เกิดประโยชน์ มีการสมัครสมาชิกพรรคตลอดชีพ แต่วันนี้เราจำเป็นต้องถอยออก เพราะพรรคอนาคตใหม่ก่อนเลือกตั้งกับหลังเลือกตั้งแตกต่างกัน

เมื่อถามถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าลาออกเพราะไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ ยืนยันสมาชิกทุกคนไม่มีใครต่อรองหรือเรียกร้องเรื่องนี้ แต่เราต้องการสื่อให้เห็นว่าตรงนี้เป็นแค่ส่วนย่อยที่ทำให้เกิดปัญหา แต่เรื่องสัญญาและสัจจะของผู้นำนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราไม่มีสัจจะในฐานะผู้นำแล้ว เราจะนำประชาชนทั้งประเทศให้ไปสู่จุดมุ่งหมายตามนโยบายได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการต่อรองตำแหน่ง “เราจึงรู้สึกว่าผู้นำของเราไม่รักษาคำพูด เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ยังรักษาคำพูดไม่ได้ แล้วจะไปทำนโยบายที่ลงไปสู่ประชาชนอีก 60 ล้านคนได้อย่างไร” นายนิพนธ์ กล่าว และมองว่าพรรคการเมืองเปรียบเสมือน พ่อแม่ ส.ส.ก็เปรียบเสมือนลูก เมื่อลูกออกไปนอกบ้านแล้วคนในสังคมบอกว่าลูกท่านสร้างความเดือดร้อน ท่านจะฟันธงว่าลูกทำผิด หรือจะดึงลูกออกจากจุดขัดแย้งแล้วมาว่ากล่าวตักเตือนกันภายในครอบครัว