ท่องเที่ยวจับมือคมนาคม เพิ่มศักยภาพเครือข่ายการเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยว

ท่องเที่ยวฯ จับมือคมนาคม เพิ่มศักยภาพโครงข่ายการเดินทางทั้งทางอากาศ ทางบกและทางน้ำ รองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะการท่องเที่ยวสู่ชุมชน

เมื่อวันที่ 22 ต.ค.62 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงคมนาคมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในโครงข่ายคมนาคม ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ รองรับปริมาณนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางอากาศ ได้มีการปรับปรุง SlotCoordination เพื่อรองรับเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ ปรับแผนขยายและก่อสร้างสนามบินเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต ส่วนทางบกได้มีการปรับปรุงและเชื่อมโยงเส้นทางหลักสู่แหล่งท่องเที่ยว เช่น การจัดทำป้ายเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวโดยชุมชน

สำหรับทางน้ำ ได้เน้นเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการเพิ่มความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมมายังแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีการขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมาตรการห้ามการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับประเทศไทย ในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ประเทศไทยควรจะต้องเดินหน้าพัฒนาในด้านที่ควรปรับปรุง ได้แก่ ด้านความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่มความเข้มข้นในด้านความปลอดภัย และยกระดับความสะอาดและสุขภาพให้มีความครอบคลุมในทุกสาขาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย

พร้อมทั้ง เพิ่มมาตรการในการอำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางอากาศให้มีประสิทธิภาพและสามารถรองรับต่อการขยายตัวของคนเดินทางทั่วโลก ประกอบกับยกระดับอันดับที่อยู่ในระดับดีเด่นให้สามารถรักษาระดับให้สูงขึ้น เป็นที่น่าสังเกตว่า อันดับที่อยู่ในเกณฑ์ดีที่สุด แต่ปรับอันดับลดลง อาจจะต้องมีมาตรการในการรองรับโจทย์ในข้อดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น ด้านทรัพยากรธรรมชาติ การแข่งขันด้านราคาและโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางอากาศ เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น ทั้งนี้ อาจจะต้องบูรณาการความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายเพื่อการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับทั้ง 4 ด้านหลัก ตามนโยบาย คือ เรื่องความปลอดภัย ความสะอาด ยั่งยืน และการไม่เอาเปรียบ”

นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขีดความสามารถการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก ลำดับ 35 ในปี 2558 เป็นลำดับ 34 ในปี 2560 และลำดับที่ 31 ในปี 2562 แต่ประเมินว่าขีดความสามารถฯ ยังสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกหากได้รับความร่วมมือจากกระทรวงคมนาคมที่มีภารกิจในการพัฒนาโครงข่ายด้านคมนาคม โดยเฉพาะการเพิ่มศักยภาพโครงข่ายพื้นฐานด้านการขนส่งทางอากาศ หากมีการปรับปรุงคาดว่าศักยภาพโครงข่ายการคมนาคมของไทยจะสูงขึ้นและสามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ประมาณร้อยละ 80 เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยทางอากาศ

ด้าน นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า “กระทรวงคมนาคม ได้พัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกใน 3 ทาง ได้แก่ 1. การอำนวยความสะดวกทางอากาศ ซึ่งมีการบริหารจัดการ Slot Coordination และน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมทั้งการก่อสร้างและการขยายสนามบินอื่นๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น 2. การอำนวยความสะดวกทางบก เรื่องการผ่านข้ามแดน (รถบัส) บริเวณด่านประเทศมาเลเซีย , การอำนวยความสะดวกในการผ่านข้ามแดนรถยนต์ และการดำเนินโครงการถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ และ 3. การอำนวยความสะดวกทางน้ำ เน้นย้ำด้านการรักษาความปลอดภัยทางน้ำ และการขยายท่าเทียบเรือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งนี้ การพัฒนาด้านการคมนาคมโครงสร้างพื้นฐานและการบริการนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และรวดเร็วมากขึ้น