สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะแห่งญี่ปุ่น ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขึ้นครองราชย์เป็นพระจักรพรรดิแห่งบัลลังก์เบญจมาศอย่างเป็นทางการ ณ พระราชวังอิมพีเรียล กรุงโตเกียว
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานวันนี้(22 ต.ค.) สมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะแห่งญี่ปุ่นทรงมีพระบรมราชโองการประกาศขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หรือ โซกุอิ โนะ เร ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ พระราชวังหลวง ในกรุงโตเกียวโดยพระราชพิธี เป็นไปอย่างสมพระเกียรติตามโบราณราชประเพณี ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติกว่า 2 ,000 คนจาก 180 ประเทศร่วมเป็นสักขีพยาน โดยทรงให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสัญลักษณ์ของชาติอย่างเต็มกำลังความสามารถ
“ข้าพเจ้าขอสาบานว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และจะรับผิดชอบต่อหน้าที่ในฐานะสัญลักษณ์ของชาติ และสร้างความเป็นปึกแผ่นแก่อาณาประชาราษฎร์” จักรพรรดินารูฮิโตะตรัสต่อบรรดาผู้ร่วม ซึ่งประกอบไปด้วยผู้นำรัฐบาลและเชื้อพระวงศ์จากทั่วโลก เช่น เจ้าฟ้าชายชาร์ลสแห่งอังกฤษ, เอแลน เชา รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ และนาง อองซาน ซูจี เป็นต้น “ข้าพเจ้าหวังอย่างจริงใจว่า ประเทศญี่ปุ่นจะเจริญวัฒนายิ่งไปกว่านี้ และมีส่วนในการสร้างมิตรภาพและสันติภาพแห่งประชาคมโลก ตลอดจนส่งเสริมสวัสดิภาพและความเจริญรุ่งเรืองของมนุษยชาติด้วยการใช้ปัญญาและความพยายามอย่างไม่สิ้นสุด”
จักรพรรดินารูฮิโตะทรงเป็นจักรพรรดิญี่ปุ่นพระองค์แรกที่ทรงพระราชสมภพหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเมื่อวันที่ 1 พ.ค. หลังการสละราชบัลลังก์ของสมเด็จพระจักรพรรอากิฮิโตะ
พิธีเฉลิมฉลองที่มีการตระเตรียมมานานหลายเดือนได้รับผลกระทบจากมหันตภัยไต้ฝุ่น ‘ฮากิบิส’ ที่ซัดถล่มญี่ปุ่นจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 รายเมื่อ 10 วันก่อน โดยสำนักพระราชวังได้ประกาศเลื่อนการจัดริ้วขบวนฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะไปเป็นช่วงเดือน พ.ย. เพื่อให้รัฐบาลได้ทุ่มเทกำลังอย่างเต็มในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูบ้านเมืองที่เสียหาย
สำหรับพระราชพิธีในวันนี้ เริ่มจากการที่สมเด็จพระจักรพรรดิทรงประกอบพิธีกราบทูล ‘อามาเตราสุ’ เทพีแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของจักรพรรดิญี่ปุ่น โดยทรงฉลองพระองค์แบบโบราณเรียกว่า ‘โซกุไต’ (Sokutai) ส่วนสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะในวัย 55 พรรษา ทรงฉลองพระองค์กิโมโน ‘จูนิฮิโตเอะ’ (Junihitoe) ซึ่งประกอบด้วยผ้าขาวถึง 12 ชั้น
จากนั้นสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะเสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งมัตสึโนะมะ (Matsu no Ma) หรือ พระที่นั่งต้นสน และประทับบนบัลลังก์ดอกเบญจมาศทาคามิคุระ (Takamikura) สูง 6.5 เมตร โดยมีเครื่องราชกกุธภัณฑ์อันได้แก่พระขรรค์และอัญมณีวางอยู่ข้างพระองค์ หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ได้กล่าวถวายพระพรต่อสมเด็จพระจักรพรรดิ และนำบรรดาผู้เข้าเฝ้าฯ กล่าวคำว่า ‘บันไซ’ 3 ครั้ง
โดยสมเด็จพระจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นจะพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการแก่บรรดาผู้เข้าร่วมพระราชพิธีในช่วงค่ำ และจะพระราชทานเลี้ยงน้ำชาแก่สมาชิกพระราชวงศ์ต่างชาติในช่วงบ่ายวันพุธ (23 ต.ค.)