“ปิยบุตร”เผย “ธนาธร” ขำกลิ้ง หลัง ถูก กอ.รมน.แจ้งจับ ฉะกลับ “บุรินทร์” รับใช้ คสช.จนได้นายพล

วันนี้ (4 ต.ค.) ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งความฐานผิดกฏหมายอาญามาตรา 116 ร่วมกับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านและนักวิชาการรวม 12 คนที่ร่วมเสวนาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ จ.ปัตตานี ว่า ก็พร้อม ในเมื่อถูกดำเนินคดีก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ในส่วนพรรคฝ่ายค้านเราก็ยืนยันในความบริสุทธิ์ใจในการขับเคลื่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสียดายอยู่ในระหว่างสภาผู้แทนราษฎรปิด เพราะถ้าสภาฯ เปิดตนคิดว่าเรื่องนี้ก็เป็นประเด็นที่สำคัญที่จะถามไปยังนายกรัฐมนตรีว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ในกรณีที่เกี่ยวกับการดำเนินการเช่นนี้

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ฝ่ายการเมืองมีการชี้นำให้แจ้งความ นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจจริงๆ แต่พอเห็นชื่อ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการสำนักงาน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ทีไรก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ก็อดคิดไม่ได้ว่าพล.ต.บุรินทร์ คิดอะไรอยู่ ถึงต้องใช้วิธีการแบบนี้ทุกครั้งไป ตนเรียนว่ากฏหมายมันเป็นเครื่องมือสำคัญในการจำกัดอำนาจรัฐ กฏหมายจะต้องไม่ใช่เครื่องมือของคนที่มีอำนาจ ที่ขัดขวางการใช้สิทธิเสรีภาพของบุคคล

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า เดินหน้าต่อแน่นอน พรรคอนาคตใหม่เรายืนยันมาโดยตลอดว่าสิ่งที่เราทำอยู่ก็คือโมเดลแบบ รธน.ปี 40 แก้ รธน. 1 มาตรา เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ขึ้นมาใหม่ แล้วก็จัดทำ รธน.ใหม่ทั้งฉบับภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้รูปแบบรัฐแบบราชอาณาจักร รัฐเดี่ยว ซึ่งสิ่งนี้ตอนทำ รธน.ปี 40 ก็ทำในลักษณะเดียวกัน เราเคยทำได้ทำไมรอบนี้ถึงจะทำอีกไม่ได้

“อย่าให้คนต้องคิดว่ากลายเป็นว่าคนที่พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญตามกระบวนการที่ท่านออกแบบกันมามีอุปสรรคเหลือเกิน แต่พอเป็นพวกท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องแยแสรัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องเคารพรัฐธรรมนูญ ท่านถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบก็ได้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือแม้วันนึงท่านก็เคยฉีกรัฐธรรมนูญมาแล้วก็ไม่มีต้องรับบทลงโทษใดใดทั้งสิ้น เรื่องมันจะกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สุด กลายเป็นว่านายทหารคนหนึ่งตอนเป็นผู้บัญชาการทหารบก ทำรัฐประหารมีความผิดอาญาฐานกบฏ ตามกฏหมายอาญา ม.113 ทุกวันนี้ไม่โดนอะไรเลย ลอยหน้าลอยตากลายเป็นนายกรัฐมนตรีมา 5 ปีแล้ว ในขณะเดียวกันแกนนำพรรคฝ่ายค้านไปรณรงค์เรื่องแก้รัฐธรรมนูญตามกระบวนการที่ท่านมีกลับทำไม่ได้ ถูกนายทหารคนนึงไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ผมถามว่าความยุติธรรมตรงนี้มันอยู่ตรงไหน ผมคิดว่าบุคคลที่มีจิตใจเป็นธรรม เป็นวิญญูชน มีเหตุมีผลเห็นเรื่องนี้ก็คิดได้ว่าเรื่องนี้มันกลับตาลปัตรกันขนาดไหน” นายปิยบุตร กล่าว

เมื่อถามว่าได้คุยกับนายธนาธร หรือยัง นายปิยบุตร กล่าวว่า ก็คุยกันเรียบร้อยแล้ว มีกำลังใจดี พอเจอเรื่องนี้ก็ยิ้มหัวเราะ เห็นนายพลคนนี้ไปแจ้งความเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็นายพลคนนี้ที่ไปแจ้งความเกี่ยวกับการไลฟ์เฟซบุ๊กซึ่งอัยการก็สั่งไม่ฟ้อง

เมื่อถามถึงการใช้ช่องทางกรรมาธิการกฏหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาฯ สอบถามถึงเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า จริงๆ มีคนมาร้องเรียนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้รับความลำบากถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ เดือดร้อนต้องไปต่อสู้คดีเนื่องจากมีนายทหารคนนึงรับมอบอำนาจจาก คสช.เที่ยวไปแจ้งความแล้วสุดท้ายก็ยกฟ้อง อย่างนี้มันก็คือมีการเปิดช่องทางฟ้องคดีเพื่อกลั่นแกล้งกัน เพื่อปิดปาก ก็ขอให้ กมธ.ศึกษาสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งตนในฐานะประธาน กมธ.ก็จะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ และเป็นไปได้จะอาศัยอำนาจเรียก พล.ต.บุรินทร์ มาชี้แจงว่า ได้อ่านกฏหมายอย่างไร ดูประมวลความผิดตาม ม.116 อย่างไร ทำไมถึงเที่ยวไปแจ้งความเต็มไปหมด และสุดท้ายอัยการก็สั่งไม่ฟ้อง แต่พล.ต.บุรินทร์ กลับได้ดิบได้ดีเป็นพล.ต.จนถึงวันนี้

นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนเชื่อว่าที่ พล.ต.บุรินทร์ ไปแจ้งความเพื่อต้องการกลบเกลื่อนขาลงของรัฐบาล และกลบเกลื่อนประเด็นแก้ไข รธน.ซึ่งตอนนี้สังคมมีทีท่าจะตอบรับมากขึ้นทั้งฝั่งพรรครัฐบาลและวุฒิสภา ตนอยากให้ทางกองทัพไปพิจารณาให้ดีว่าใครกันแน่เป็นคนที่ขัดขวางการเดินหน้าของประเทศ ขัดขวางการแสวงหาฉันทามติร่วมกันใหม่ของการทำ รธน. ขณะที่บทบาทของ กอ.รมน.ซึ่งเป็นกลไกของการรัฐประหารก็เดินหน้าปฏิบัติหน้าที่แบบนี้ ไม่ต่างกับการสืบทอดอำนาจของ คสช. แปลงตัวเข้ามาอยู่ในระบบเปรียบเสมือนเป็น คสช.ภาค 2