อลงกรณ์ พลบุตรโพสต์เฟส ทวงตามมารยาท พล.ท.นันทเดช-ทยา ทีปสุวรรณ วิจารณ์ข้ามพรรค ระบุ พรรคจะมีมติหลังประกาศผล 9 พ.ค.
วันนี้(1เม.ย.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว แสดงความเห็นและชี้แจงกรณี”พริษฐ์”เสนอให้ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านอิสระจนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ข้ามพรรคปรากฎข้อความดังนี้
“…………
เพื่อโปรดทราบ
กรณีคุณพริษฐ์ (ไอติม) กับ พลโท นันทเดช (เมฆสวัสดิ์ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย) และคุณทยา ทีปสุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ )ฯลฯ…
“……จะถูกจะผิดจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยทุกคนควรเคารพความเห็นที่กันและกัน หากมีความคิดแตกต่างก็เสนอเหตุผลข้อเท็จจริง นี่คือประการแรกที่ขอติงเอาไว้ครับ อีกประการคือ ในพรรคประชาธิปัตย์มีวัฒนธรรมองค์กรเปิดกว้าง แต่ละคนมีเสรีภาพทางความคิดในประเด็นการเมือง ซึ่งเป็นปกติวิสัยของสถาบันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยและเมื่อพรรคมีมติออกมาเราก็มีวินัยพรรคในการต้องปฏิบัติตาม
นอกจากนี้ การวิจารณ์ข้ามพรรคพึงรักษามารยาท หากไม่เห็นด้วยก็วิจารณ์ด้วยตรรกะเหตุผลที่เห็นต่างอย่างสุภาพให้เกียรติกันและหลีกเลี้ยงการดูถูกเสียดสีเหยียดหยามน่าจะเป็นแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมกว่า
‘คุณพริษฐ์เป็นสมาชิกพรรคที่เป็นคนรุ่นใหม่เป็นหนึ่งในกลุ่มนิวเดม(New Dem)มีคุณวุฒิวัยวุฒิและภูมิหลังที่ดี ดังนั้นการแสดงออกซึ่งจุดยืนและความคิดทางการเมือง(ความเห็นส่วนตัวของคุณพริษฐ์ ไม่ใช่ของกลุ่มนิวเดม)ที่เสนอต่อพรรคประชาธิปัตย์ที่ตนสังกัด จึงเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว’
เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีมติว่าจะร่วมรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งในการประชุมร่วมระหว่างรักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคกับอดีตส.ส.กว่า100คนเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมาก็รับฟังความเห็นของทุกคนอย่างเปิดกว้างมีทั้งประสงค์ให้ร่วมรัฐบาลและเป็นฝ่ายค้านโดยที่ประชุมมีแนวทางชัดเจนเป็นข้อสรุปว่าให้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่และส.ส.ใหม่ที่จะมีการรับรองผลโดยกกต.ในวันที่ 9 พ.ค.เป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว เช่นเดียวกับพรรคภูมิใจไทยก็จะตัดสินใจเรื่องร่วมรัฐบาลหรือไม่หลังวันประกาศรับรองผลส.ส.เช่นกัน
ผมเชื่อว่า ทุกคนรักชาติบ้านเมืองไม่ต้องการให้เกิดทางตันทางการเมือง ขอให้มั่นใจว่าการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ยึดประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้งและคำนึงถึงอนาคตของประเทศมากกว่าอนาคตของพรรคตัวเองโดยพร้อมจะร่วมมือกับทุกฝ่ายพาประเทศเดินไปข้างหน้าสู่อนาคตที่ดีกว่าไม่ใช่เดินไปสู่ทางตันหรือวิกฤติของชาติครั้งใหม่ สำหรับภารกิจระหว่างนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะให้ความสำคัญสูงสุดต่องานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉกเช่นพสกนิกรคนไทยทุกคนครับ”