‘ดร.บุ๊ พิศสุวรรณ’น้องชายคนสุดท้อง พูดถึง’ดร.สุรินทร์-ฮูวัยดียะห์’ กับการทำงานเพื่อมนุษยชาติ

1779
ดร.วุฒิศักดิ์ (บุ๊) พิศสุวรรณ น้องชายคนสุดท้องของดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้เขียนข้อความถึงฮูวัยดียะห์ พิศสุวรรณ ว่าที่ ผู้สมัครส.ส.เขตคลองสามวา พรรคประชาธิปัตย์ ที่สะท้อนมุมมองตั้งแต่แนวคิดพื้นฐานทางการเมืิอง การทำหน้าที่ทางการเมือง และเป้าหมายของการทำงานการเมือง เป็นข้อเขียนที่น่าสนใจ  

#ขอเขียนถึงพี่สาวของผม
#คุณฮูวัยดีย๊ะ_พิศสุวรรณ_อุเซ็ง
#ว่าที่ผู้สมัครเขตคลองสามวา

วันนี้ผมขอเขียนถึงพี่สาว “คุณฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง” สักหน่อย

ซึ่งคุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” เป็นสมาชิกคนเดียวในครอบครัวที่มีความสนใจทางการเมืองตามรอยพี่ชาย “ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ”

คุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” หรือ “กะยะฮฺ” ที่พวกเราเรียกกันในครอบครัว เป็นพี่น้องคนที่ 6 คั่นกึ่งกลางสมาชิกทั้งหมด 11 คน ของครอบครัวเรา กึ่งกลางระหว่าง “ดร.สุรินทร์” คนที่ 1 กับ ผม คนที่ 11

เราโตมาด้วยกันในครอบครัวที่ไม่มีใครบังคับใคร ไม่มีใครสร้างเส้นทางชีวิตให้ใครเดิน เราต่างมีอิสระในความคิดอ่านและตัดสินใจเส้นทางชีวิตของตนเอง พ่อ กับ แม่ รวมทั้งพี่ๆ ที่โตกว่า วางกรอบกว้างๆ แค่บอกว่าต้องไม่ละเลยและต้องให้ความสำคัญของการใช้ศาสนาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตมาเป็นอันดับหนึ่ง ใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และศาสนา ยึดเอาการทำงานหนักเพื่อคนอื่น เพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ เพื่อศาสนา เป็นที่ตั้ง

ว่ากันด้วยเรื่องการเมืองแล้ว ผมคิดว่าพวกเราที่เหลือ ทั้ง 9 คน แทบจะไม่มีใครสนใจเข้าไปมีส่วนร่วมเชิงลึก ว่ากันตรงๆ คือ พวกเราทั้ง 9 คน น่าจะเป็นเพียง Voter ที่ดีในระบอบประชาธิปไตย ไม่ละเลยหน้าที่ตรงนี้ แต่ไม่มีใครสนใจการเมืองถึงขั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็น Supporter ของพรรคการเมือง อย่าว่าแต่เป็นนักการเมืองเสียเอง

และไม่มีใครในครอบครัว เดินตามหลัง ถือประเป๋า นั่งหน้าห้อง ในทุกยุคทุกสมัยที่ “ดร.สุรินทร์” มีอำนาจหน้าที่หรือตำแหน่งทางการเมือง ยกเว้นคุณ “ฮูวัยดีย๊ะ”

ความสนใจทางการเมืองของคุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากความสนใจภายใน อาจได้รับแรงบรรดาลใจและแบบอย่างจาก “ดร.สุรินทร์” และเมื่อท่านเห็นว่าน้องสาวสนใจก็คงให้การสนับสนุนในภายหลัง

คุณสมบัติหนึ่งของ “ดร.สุรินทร์” และ คุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” ที่พวกเราพี่น้องที่เหลืออีก 9 คน ไม่มี คือ #ความไม่ย่นท้อทางการเมือง เราเคยอภิปรายกันว่า….

อะไรคือแรงขับให้นักการเมือง (ที่เราคิดว่าเป็นนักการเมืองที่ดี) สามารถทนแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นในชีวิต หรือ ที่เราใช้คำว่า #ยอมเปลืองตัว ลงไปเล่นการเมือง ยอมถูกด่า ถูกตำหนิ ถูกขุดคุ้ยด้านมืด (ที่ทุกคนย่อมมี) เพียงเพื่อมาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนโดยที่แทบต้องสูญเสียความเป็นอิสระในการใช้ชีวิตส่วนตัว

คำตอบที่เราสรุปร่วมกัน ได้ คือ #ความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคม และ #ความสุขที่ได้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่น และแน่นอนอีกประเด็นหนึ่งคือ #ความทะเยอทะยานสู่เป้าหมายความสำเร็จในชีวิต ในฐานะของความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง

มีรายละเอียดความเสียสละ ความกล้าหาญมากมายที่เรารับรู้กันเป็นการภายในครอบครัวว่า ตลอดชีวิตทางการเมืองของ “ดร.สุรินทร์” นั้นท่านได้ทำอะไร ปฎิบัติภารกิจอะไร ทั้งที่เป็นในนามส่วนตัว และในนามบทบาทหน้าที่ในฐานะนักการเมือง นักการฑูต นักเจรจาต่องรองระหว่างประเทศ นักมนุษยธรรม ที่เป็นภารกิจลับ หรือเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่จำเป็นต้องแจ้งต่อสาธารณะ ซึ่งท่านได้บอกพวกเราว่า…

“ถ้าทุกคนสนใจแต่จะทำงานเบื้องหน้าแล้วงานเบื้องหลังใครจะทำ?”

และข้างต้นเหล่านั้น เป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งที่คุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” มีและทำได้ดีแม้ศักยภาพและเครือข่ายอาจยังไม่กว้างขวางเท่าพี่ชาย

สิ่งที่คุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” มี เหมือน “พี่สุรินทร์” อีกประการ คือ การมองมนุษย์อย่างเท่าเทียม ไม่แปลกแยกผู้คนด้วยความเชื่อทางศาสนา ความเชื่อทางการเมือง สถานภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ ให้โอกาสคนอื่น ไม่ถือโกรธ ไม่อาฆาต และไม่เคยให้ร้ายใคร สนุกและรู้สึกมีความท้าทายกับการเปลี่ยนศรัตรูให้เป็นมิตร มองโลกในแง่ดี และมีความปรารถนาดีต่อผู้อื่นอย่างมากมาย ผมว่านี่เป็นคุณสมบัติสำคัญขั้นพื้นฐานที่ี่บุคคลสาธารณะจำเป็นต้องมี และคุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” มีพร้อมอย่างล้นเหลือ

ก่อนการตัดสินใจรับข้อเสนอของพรรคฯ ให้ลงสมัคร สส.เขตคลองสามวา ในครั้งนี้ ผมมีโอกาสพูดคุยกับคุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” และตั้งคำถาม 2-3 ประเด็น

1. #จะเอายังงัยกับฮิญาบมันจะมีปัญหากับผู้สนับสนุนไหม?

คุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” ตอบว่า ถ้าเราเชื่อในเสรีประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล สิทธิความเป็นพลเมือง เสรีภาพในการนับถือศาสนา ความเชื่อ และการปฏิบัติตนตามความเชื่อภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานสากลแล้ว

เราก็ควรทำให้เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติในชีวิต เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ถ้าเรายังไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพ ยังมองว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการทำงานแล้ว เท่ากับว่าเรายอมรับและยอมจำนนต่อการจำกัดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล และคงไม่ใช่ในประเด็นเรืองฮิญาบอย่างเดียว แต่เท่ากับว่าเรายอมรับหรือมีแนวโน้มที่จะเพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานในเรื่องอื่นๆ ต่อไปด้วย

และถ้าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาอุปสรรคก็ต่อเมื่อตัวเราเองมองว่ามันเป็นปัญหา ไม่เกี่ยวกับการมองของคนอื่น

2. #มีเงินหรือเห็นว่าการเมืองต้องใช้เงินเยอะ?

คุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” ตอบว่า ค่าใช้จ่ายตามกรอบของกฎหมายนั้นคงไม่มีปัญหา สามารถรณรงค์ขอรับการสนับสนุนได้

ส่วนค่าใช้จ่ายที่มากกว่านั้นคงไม่มี และไม่จำเป็น ถ้าเราพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นไม่ได้ว่าการเมืองเป็นเรื่องของการคาดหวังผลประโยชน์สาธารณะที่นักการเมืองจะอาสาเข้าไปบริหารจัดการให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติและต่อทุกคนในสังคมอนาคตได้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย หากเงินมีความหมายในการเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง วันนี้เราคงไม่มี “ดร.สุรินทร์” ให้เราภาคภูมิใจ

3. #รู้จักพื้นที่ดีพอหรือ?

คุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” บอกว่า ตลอดเวลาการทำงานการเมือง ไม่เคยสบาย ความทุ่มเทในการลงพื้นที่ เช้าออกดึกกลับ คือ วิถีชีวิตนักการเมืองที่ได้เรียนรู้จาก “ดร.สุรินทร์” และมันเวิร์ค ต้นทุนต่ำ แต่ต้องเหนื่อยหน่อย การเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจนั้นสำคัญ คุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” ถือได้ว่าเป็นคนที่รักษาสุขภาพดีมาก ออกกำลังกายทุกเช้า ถือศีลอดทุกวันจันทร์และพฤหัสบดี มาเป็นเวลาหลายปี เธอบอกว่าเป็นการสร้างความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ให้สามารถรับแรงกดดันทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจในการทำงานเพื่อสังคม

ถึงแม้โดยส่วนตัว ผมเองไม่ได้มีความสนใจทางการเมือง และไม่มีนักการเมืองคนใดเป็นต้นแบบให้คิดที่จะเจริญรอยตาม เพราะคิดว่าการเมืองไม่ใช่วิถีของเรา

แต่ถ้าจะถามว่าคุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” พอจะเป็นนักการเมืองที่ดีได้ไหม? ผมตอบได้เพียงว่า….

ยังไม่เห็นคุณสมบัติข้อไหนของเธอจะขาดตกบกพร่องที่จะทำให้เธอเป็นนักการเมืองที่ดีไม่ได้

และหากเอาเรื่องความรู้ความสามารถ ประสบการณ์การทำงานทางการเมือง (ผู้ช่วย ส.ส., อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช, อดีตเลขานุการรัฐมนตรี, รองนายกเทศมนตรีนคร ฯลฯ) ความเสียสละทุ่มเท ขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีความด่างพร้อย และเอาจริงเอาจังต่อหน้าที่การงานที่ขันอาสาหรือได้รับมอบหมาย มาเป็นเครื่องวัดแล้วไซร้….

ผมคิดว่าคุณ “ฮูวัยดีย๊ะ” คือหนึ่งในนักการเมืองที่ผมจะเลือกได้โดยสนิทใจ แม้ว่าผมจะไม่มีสิทธิ์กาลงคะแนนให้เธอ เพราะนครศรีธรรมราช ไม่มีพื้นที่ว่างให้เธอในงานการเมืองรอบนี้

และในโอกาสเปิดที่ทำการสาขาพรรคฯ เขตคลองสามวา ในวันนี้ ผมขอพรจากพระเจ้าให้เธอประสบความสำเร็จในทุกหน้าที่ที่เธอปรารถนาจะใช้เป็นเครื่องมือในการรับใช้สังคม ประเทศชาติ ขอพระเจ้าโปรดเลือกสรรตำแหน่งหน้าที่การงานที่เหมาะสมกับเธอในการสร้างประโยชน์ต่อผู้อื่น ต่อสังคม ประเทศชาติ

ขอให้เธอยึดมั่นในคำสอนและค่านิยมของครอบครัวของเราตามหลักการศาสนาที่ว่า….

“มนุษย์ที่เป็นที่รักยิ่งของพระเจ้ามากที่สุดคือมนุษย์ที่สร้างประโยชน์ให้กับเพื่อนมนุษย์มากที่สุด”

(พระวัจนะศาสดา: รายงานโดยอัฏฎ็อบรอนีย์)

และขอให้เธอยึดมั่นในแบบอย่างที่ดีเลิศในการดำเนินชีวิตดังเช่นวิถีชีวิตของท่านศาสดา ซึ่งท่านถูกส่งมายังมนุษย์เพื่อเป็นความเมตตาแก่มวลมนุษย์ เพื่อสร้างประโยชน์แก่มวลมนุษย์ทั้งหลาย ดังที่พระเจ้าทรงตรัสยืนยันไว้ว่า…..

”และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย”

(คัมภีร์อัลกุรอ่าน บทอันนิซาอฺ โองการที่ 107)

ดร.บุ๊ พิศสุวรรณ
22 มกราคม 2562