สิ้นศูนย์รวมใจชาวพุทธสุไหงปาดี ชาวบ้านจะอยู่กันอย่างไร

“ถ้าไม่ตายไม่ขอเลิกทำความดี​ ผมไม่หนี​
ผมถือว่าตรงนี้เป็นแผ่นดินไทย​ ปู่​ย่าตายายผมเป็นคนพุทธ​ เกิดตรงนี้ขอตายตรงนี้”

วันที่ 19 มกราคม เวลา 20.30 น. ชายฉกรรจ์แต่งชุดดำ ขี่รถ จยย.ตามกันมาหลายคัน เมื่อขี่เข้าประตูวัดได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กุฏิจำนวนหลายสิบนัด จนเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวเป็นระยะๆ ชาวบ้านจึงได้พากันหวีดร้องและวิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้าน โดยมีคนเห็นว่า พระถูกจ่อยิงในระยะเผาขน บางรูปถูกจ่อยิงที่ศีรษะ จากนั้นชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ ตชด.447 ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดมาที่วัด
แต่พบว่าคนร้ายได้พากันหลบหนีไปแล้ว

สิ้นเสียงปืน มีพระถูกยิง 4 รูป มารณภาพ 2 รูป ในจำนวนนี้ มีพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ (ท่านสว่าง) เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส วัดที่ชาวบ้านอยู่กันเงียบสงบมายาวนาน กลับต้องมานองเลือด

หลายฝ่ายออกมาประณามการกระทำอันเหี้ยมโหดของคนร้าย ที่ทำร้ายพระสงฆ์ที่ถือเป็นผู้ทรงศีล และอาลัยต่อการจากไปของท่านสว่าง ที่ถือว่า เป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธในสุไหงปาดี

ในภาวะที่เกิดรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ ชาวพุทธจำนวนหนึ่งละทิ้งบ้านเกิดเพื่อหลบหนีความรุนแรง แต่พระครูประโชติ ได้ยืนหยัดอยู่ในพื้นที่ และชักชวนลูกหลานที่ไม่กล้ากลับบ้าน ให้กลับมาเพื่อร่วม พัฒนาบ้านเกิด ถ้อยคำที่ถ่ายทอดหลวงอิฐ เป็นถ้อบคำที่กินใจ

“ถ้าไม่ตายไม่ขอเลิกทำความดี​ ผมไม่หนี​
ผมถือว่าตรงนี้เป็นแผ่นดินไทย​ ปู่​ย่าตายายผมเป็นคนพุทธ​ เกิดตรงนี้ขอตายตรงนี้”​

ถ้อยคำของ หลวงอิฐ ที่บิ๊กแดงแฟนเพจ นำมาโพสต์ระบุด้วย นึกถึงตอนไปเสวนาและทำงานร่วมกับท่านใจหายจริงๆ ขันติธรรมความสงบหนักแน่น และความรักผืนแผ่นดินของท่านที่ได้เคยกล่าวว่า

“ถ้าไม่ตายไม่ขอเลิกทำความดี​ ผมไม่หนี​
ผมถือว่าตรงนี้เป็นแผ่นดินไทย​ ปู่​ย่าตายายผมเป็นคนพุทธ​ เกิดตรงนี้ขอตายตรงนี้”​

จะเป็นแบบอย่างของพวกเราที่อยู่ข้างหลัง
ในการทำงานของกลุ่มถักทอสันติภาพสืบไป

Ning Suchanya ชาวสุไหงปาดี โพสต์ข้อความระบุว่า สิ้นสุดเสียงปืนเงียบลง กลับกลายเป็นเสียงร้องไห้เหมือนจะขาดใจของคนทั้งหมู่บ้าน ใจลูกแตกสลายเมื่อรู้ว่าหลวงอาสิ้นแล้ว รัตนานุภาพสูญเสียจนหมดสิ้นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านโคกโก หมู่บ้านที่เคยเงียบสงบ ร่มเย็น กลับโดนคนใจบาปทำลายจนสูญสิ้นแค่เพียงไม่กี่นาที (ครั้งหนึ่งก่อนตัดสินใจกลับลงมาทำงานที่บ้านเกิดตัวเองบอกเลยตอนนั้นมีแต่ความกลัว ไม่กล้ากลับมา

พอหลวงอารู้ข่าวว่าเราไม่กล้ากลับมาจึงฝากบอกกับแม่ให้บอกเราว่ากลับมาเถอะ กลับมาอยู่บ้านเรา ไม่ต้องกลัวอะไร และหลวงอาก็เป็นคนที่เดินทางไปส่งเราพร้อมกับพ่อและแม่ที่โรงเรียนในวันแรกที่เราเข้าไปทำงาน)
#แต่ในวันนี้ที่ที่เราคิดว่าปลอดภัยที่สุดในชีวิตของเรา กลับกลายเป็นที่ที่เราต้องอยู่ไปด้วยความหวาดระแวงและความกลัว

เราต้องสูญเสียที่พึ่งทางใจ น้ำตาแทบเป็นสายเลือดกับการสูญเสียครั้งนี้ เราทำใจยอมรับไม่ได้กับการสูญเสียครั้งนี้ #ขอความสงบสุขกับมาสู่สามจังหวัดชายแดนใต้ด้วยเถิด #บ้านโคกโกบ้านเกิดฉัน

เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนความแข็งแกร่งในหัวใจ ท่านสว่าง ที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้านโคกโก ที่วันนี้ ต้องว้าเหว่า กับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่พึ่งทางใจ

ไม่มีแล้ว ศูนย์รวมใจชาวโคกโก สุไหงปาดี