ปิดล้อมยิ่งสนั่น’จะแนะ’ ก่อนเด็ดหัว 1ใน 5 คนร้ายชายแดนใต้ ประสาน ฮ.บินล็อคเป้า
เมื่อเวลา 07.15 น.วันที่ 18 ม.ค.62 พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ในฐานะหัวหน้าชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 11 และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.จะแนะ จำนวน 3 ชุดปฏิบัติการณ์ เข้าพิสูจน์ทราบในสวนยางพารา บ้านตือกอ ม.7 ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ห่างจากโรงเรียนบ้านตือกอ ประมาณ 2 กม.
เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันโอบล้อมพื้นที่ พบชายฉกรรจ์ 5 คน พร้อมอาวุธสงครามครบมือ มีการใช้สวนยางพาราเป็นที่พักพิงชั่วคราว และใช้เปลสนามผูกติดกับต้นยางพาราเป็นที่หลับนอน เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันโอบล้อม
ระหว่างนั้น 1 ใน 5 คนร้ายที่ทำหน้าที่ดูต้นทางพบเห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้ตะโกนบอกพวกที่เหลือให้รู้ตัว พร้อมใช้อาวุธปืนสงคราม อาร์ก้า47 ยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่าย ได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นระลอกๆ นานกว่า 30 นาที เจ้าหน้าจึงได้ขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์บิน จากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส บินกดดันกลุ่มคนร้ายพร้อมทั้งสังเกตการความเคลื่อนไหวของคนร้าย ไปยังเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินได้รับทราบ
จนกระทั่งกลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัว จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเบิกทางเพื่อหลบหนีขึ้นไปยังกลางทุ่งนาใกล้เทือกเขา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนสามารถวิสามัญคนร้ายเสียชีวิตได้ 1 คน ส่วนที่เหลืออีก 4 คน สามารถอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ และในจำนวนนี้คาดว่าถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บมีรอยเลือดตามพื้นดินหลายจุดหลบหนีเข้าป่าไปได้
ต่อมา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบสวนยางพาราดังกล่าว กลุ่มคนร้ายได้ผูกเปลสนามไว้กับต้นยางพารา 5 ผืน พร้อมทั้งจุดใช้สำหรับไว้หุงหาอาหารอีก 1 จุด รวมทั้งกระเป๋าเป้และสัมภาระอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนผู้เสียชีวิตจากการตรวจสอบทราบชื่อ คือ นายอับดุลเลาะ มะแซ หรือ เจ๊ะวอ ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่ถูกเจ้าหน้าที่เคยเชิญตัวมาสอบสวนในฐานะมีหมาย พ.ร.ก. ซึ่งข้างศพมีอาวุธปืนสงคราม อาก้า 47ตกอยู่จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวนหลายแม็ค เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะนำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลจะแนะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้นักเรียนของโรงเรียนบ้านตือกอ เกิดความหวาดกลัวทางคณะครูจึงได้นำนักเรียนจากห้องเรียนต่างๆมารวมเป็นกลุ่มอยู่ในห้องสมุด โดยมีนักเรียนชั้นประถมทั้งชายและหญิงต่างพากันร้องไห้เสียงหลง จนคณะครูต้องพูดจาปลอบประโลมกัน
แนวหน้า