มีคำถามที่น่าสนใจว่า ทำไม ‘สมัย เจริญช่าง’ จึงประกาศเว้นวรรคทางการเมือง และไม่ช่วยผู้สมัครประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง แม้จะเป็นน้องสาวดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ
ตามที่ ข่าวสด ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ว่า นายสมัย เจริญช่าง อดีต ส.ส.กทม. เขตคลองสามวา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศเว้นวรรคทางการเมือง โดยไม่ร่วมยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมใด ที่จะเกี่ยวกับการเลือกตั้งพื้นที่ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์
เขา ให้เหตุผลว่า วันนี้บริบทการเมืองเปลี่ยน จากเดิมนักการเมืองต้องเข้าหาประชาชน ดูแลทุกข์สุขชาวบ้านในพื้นที่ แต่ปัจจุบัน นักการเมืองที่จะลงเลือกตั้ง ไม่ทำการบ้าน อาศัยชื่อเสียง และกระแสเฉพาะหน้าภายใต้ยุคโซเชียลมีเดีย สื่อสารทางเดียวไปสู่ประชาชนมากกว่าการรับฟัง ปฏิเสธการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ฟังเสียงจากสาขาพรรค”
นายสมัย กล่าวผ่านข่าวสดด้วยว่า โดยเฉพาะการเสนอบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น ปัจจุบันปิดโอกาสการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ บริหารแบบรวมศูนย์ แม้จะมีสาขาพรรค แต่ไม่ให้น้ำหนักความสำคัญ ไม่ฟังผู้นำชุมชนในเขตเลือกตั้ง คำนึงถึงแต่ความพอใจของผู้บริหารพรรค พรรคการเมืองในปัจจุบันจึงไม่ใช่พรรคของประชาชน”
“โฉมหน้า ส.ส. ในระยะหลัง เป็นผู้แทนของกลุ่มทุน นักธุรกิจการเมือง ผู้รับเหมา ขาดโอกาสที่จะได้คนดีมาเป็นผู้แทน ขาดนักการเมืองมีอุดมการณ์ จริงใจต่อประชาชน ตนออกมาพูดวันนี้ ไม่ต้องการกดดันใดๆ แต่ต้องพูดเพราะรักพรรค ที่ได้ทำงานทุ่มเทชีวิตจิตใจให้มาตลอดไม่แพ้คนอื่น ถ้าวันนี้ตนไม่ออกมาสะท้อนข้อเท็จจริง คงมองหน้าพี่น้องในพื้นที่ไม่ติดแน่นอน” นายสมัย เจริญช่าง กล่าวตามรายงานของข่าวสด
สำหรับ นายสมัย เจริญช่าง เป็น อดีต ส.ส.กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมัยแรก ในปี พ.ศ. 2538 และได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในปี พ.ศ. 2539 ต่อมาในปี พ.ศ. 2549 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งต้องพ้นจากตำแหน่งในการรัฐประหาร พ.ศ. 2549 จากนั้นในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.กทม. สมัยที่ 3
แต่ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 นายสมัยไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยแพ้ให้กับนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ จากพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่เขตคลองสามวา
นอกจากนี้ นายสมัย ยังดำรงตำแหน่งทางศาสนา เป็นกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพฯ เป็นกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เคยดำรงตำแหน่งดำแหน่ง รองประธานคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย นับเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับของคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะมุสลิมกรุงเทพฯ
การประกาศเว้นวรรคทางการเมืิองของนายสมัย เป็นเรื่องที่สังคมมุสลิมให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ให้การสนับสนุน หรือช่วยผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ในการหาเสียง โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งคลองสามวา ที่นายสมัย มีความคุ้นเคยพื้นที่ ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งนางฮูวัยดียะห์ พิศสุวรรณ อุเซ็ง อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นน้องสาวของดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน บุคคลที่นายสมัยให้การเคารพนับถือ
สิิ่งที่เป็นคำถามว่า ทำไมนายสมัย จึงไม่ช่วยน้องสาวของบุคคลที่ตนเองให้การเคารพนับถือ เป็นความรู้สึกส่วนตัวของนายสมัย หรือเป็นปัญหามาจากภายในของพรรคประชาธิปัตย์
คำให้สัมภาษณ์ของนายสมัย ที่ระบุว่า ‘โดยเฉพาะการเสนอบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น ปัจจุบันปิดโอกาสการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ บริหารแบบรวมศูนย์ แม้จะมีสาขาพรรค แต่ไม่ให้น้ำหนักความสำคัญ ไม่ฟังผู้นำชุมชนในเขตเลือกตั้ง คำนึงถึงแต่ความพอใจของผู้บริหารพรรค พรรคการเมืองในปัจจุบันจึงไม่ใช่พรรคของประชาชน’ เหมือนเป็นคำสัมภาษณ์ที่ฟาดไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ค่อนข้างชัดเจน
เป็นที่ทราบกันดีว่า ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมา นายสมัย เจริญช่าง อยู่ในเครือข่ายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดยให้การสนับสนุน น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ซึ่งสายนายสุเทพ มีอาทิ นายถาวร เสนเนียม นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา ประชาธิปัตย์
นายวิรัตน์ นับว่า มีความสนิทสนามกับนายสมัยอย่างยิ่ง จะเห็นได้จากนายวิรัตน์ เป็นทนายว่าความให้กับ คณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพฯ หลายคดี และที่ผ่านมา นายวิรัตน์ ได้วางตัวบุตรชาย ลงสมัคร ส.ส.ในเขตคลองสามวา และได้ทำพื้นที่มาก่อน แต่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้เลือกนางฮูวัยดียะห์
ด้วยผลนี้หรือไม่ นายสมัย จึงประกาศเว้นวรรค ไม่ให้การช่วยเหลือผู้สมัครของประชาธิปัตย์
ทั้งหมดเป็นการตั้งข้อสังเกตจากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น คนที่จะให้คำตอบชัดเจน มีเพียงคนเดียว คือ
นายสมัย เจริญช่าง!!