อิหม่ามสนิท เอี่ยมฤทธิ์ มัสยิดศาลาลอย ยันขายที่ดินวากั๊ฟสำนักจุฬาฯรับรอง-ชาวบ้านออกจากที่ดินเพื่อขยายโรงเรียน
ตามที่มีการส่งข้อความในโลกโซเชียล ระบุว่า มีการฟ้องนายสนิท เอี่ยมฤทธิ์ อิหม่ามประจำมัสยิดศาลาลอย เขตประเวศ กทม. ขายที่ดินวากั๊ฟโดยไม่ถูกต้องและมีการขับไล่ออกจากที่ดินมัสยิดนั้น นายสนิม เอี่ยมฤทธิ์ ชี้แจงว่า เรืองดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกัน การขายที่ดินเกิดขึ้นมานาน 4-5 ปีแล้ว โดยมีชาวบ้านที่มีที่ดินรอบที่ดินมัสยิดได้ขายที่ดินออกไป ทำให้ที่ดินมัสยิดจำนวน 23 ไร่ ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงได้ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิสำนักจุฬาราชมนตรี ซึ่งอ.อรุณ บุญชม ประธานผู้ทรงคุณวุฒิพร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจสอบแล้ว ให้ความเห็นว่า สามารถขายดิน มัสยิดจึงตัดสินใจขาย ในราคาไร่ละ 3.5 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 70 กว่าล้านบาท
ส่วนการให้ชาวบ้านออกจากที่ดินมัสยิด เป็นที่ดินคนละแปลงกัน ที่ดินดังกล่าวจะใช้ขยายโรงเรียนอามานะห์ฯ ซึ่งสอนในระดับม.1-ม.3 แบบบูรณาการ และสอนวิชาชีพ เนื่องจากโรงเรียนสุเหร่าศาลาลอยของกทม. สอนถึงระดับ ป. 6 และเยาวชนส่วนใหญ่ในพื้นที่เป็นมุสลิม ไม่อยากให้ไปเรียนไกลๆ จึงสร้างโรงเรียนขึ้นมา และได้เปิดการเรียนการสอนไประยะหนึ่งแล้ว จำเป็นต้องขยายโรงเรียน จึงให้ชาวบ้านออกจากที่ดิน
‘มีชาวบ้าน 12 ครอบครัว ที่เช่าที่ดินวากั๊ฟมานาน จากตารางวาละ 1 บาท เพิ่มเป็น 5 บาท ส่วนใหญ่เช่า 20 ตารางวา ประมาณ 100 บาท ถือว่า ถูกมาก แต่บางคนก็ยังมีปัญหาไม่จ่าย ซึ่งมัสยิดไม่เคยดำเนินการอะไร ชาวบ้านที่เช่าที่ดิน ไม่เคยร่วมกิจกรรมของมัสยิด ซึ่งทางมัสยิดได้ขีดเส้นตายให้ออกจากที่ดินภายใน 60 วัน บางคนก็ย้ายออกไปแล้ว มีบางคนยังไม่ย้ายออกไป และฟ้องมัสยิด โดยฟ้องผ่านทหาร และส่งข้อความตามออนไลน์ ซึ่งเสร็จเรื่องเสร็จราวแล้วจะฟ้องกลับ’นายสนิท กล่าว
อิหม่ามมัสยิดศาลาลอย กล่าวว่า มัสยิดจะซื้อที่ดินให้ที่หนองจอกที่ชาวบ้านไม่เอา ก็มีไปซื้อที่ดินกันแล้ว