‘กัญชา’ ที่ประเทศไทยขึ้นทะเบียนเป็นยาเสพติด ได้กลายเป็นพืชที่มีมูลค่าทางการตลาดนับ แสนล้านบาท หากไม่เร่งปรับเปลี่ยนประเทศไทย จะเสียโอกาสมหาศาล
คณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีนายแพทย์โสภณ เมฆธน อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน มีกรรมการฯ อาทิ นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) และ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ปส.) เห็นชอบให้ผ่อนปรนให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์ และอยากให้มีผลบังคับใช้ได้ทันที โดยใช้คำสั่งของหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44
การสนับสนุนการใช้กัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์สามารถเกิดขึ้น เนื่องจากกัญชามีสรรพคุณหลายระการ และเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกง่ายโตง่ายในสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของประเทศไทย
ผลการศึกษาวิจัยของ St.George, University of London และสถาบันมะเร็งแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า กัญชา มีสรรพคุณทางยาชัดเจนในการรักษามะเร็ง และทำลายเซลล์มะเร็ง ยิ่งไปกว่านั้นน้ำมันสกัดจากกัญชาก็มีสรรพคุณในการรักษาแผลมะเร็งผิวหนัง
สรรพคุณของกัญชายังถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการบำบัดโรคร้ายอีกหลายต่อหลายโรค ได้แก่โรคซึมเศร้า ออทิสติก อัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน และยังช่วยแก้อาการอาเจียน และโรคเบื่ออาหาร ตลอดจนโรคนอนไม่หลับอีกด้วย
ขณะที่ประเทศไทยกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติด แต่ 26 ประเทศทั่วโลกออกกฎหมายอนุญาตให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์และสันทนาการ ประกอบไปด้วยสหรัฐอเมริกา (ในบางรัฐ) แคนาดา เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม อิตาลี โครเอเชีย รัสเซีย เอสโตเนีย ยูเครน เช็ก โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ สเปน ออสเตรเลีย โคลัมเบีย อาร์เจนติน่า เอกวาดอร์ คอสตาริกา อุรุกวัย จาไมกา เม็กซิโก เปรู ปากีสถาน เนปาล เกาหลีเหนือ และกัมพูชา
กรณีสหรัฐอเมริกา ณ ปัจจุบัน สามารถปลูก-ขาย-เสพกัญชา ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายใน 37 มลรัฐ โดยนำร่องที่มลรัฐโคโรลาโด เป็นแห่งแรก และมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นรัฐล่าสุด
กิจการค้ากัญชารายใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในแคนาดากระจุกตัวอยู่กับ 3 บริษัทคือ Canopy Growth Corporation / Aurora Cannabis / Cronos Group และบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจกัญชาทั้ง 3 แห่งล้วนนำหุ้นเข้าจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นแคนาดาทั้งสิ้น แถมระดับราคาหุ้นของทั้ง 3 กิจการก็เพิ่มพูนมูลค่ามหาศาลหลายเท่าตัวในแต่ละปี
เฉพาะมูลค่ารวมตามราคาตลาดของหุ้นบริษัท Canopy Growth Corporation ซึ่งเป็นเจ้าตลาดกัญชาอันดับ 1 ของแคนาดา มีการขยับตัวจากระดับประมาณ 4,600 ล้านบาท ในปี 2559 เป็นประมาณ 23,000 ล้านบาท ในปี 2560 และมีแนวโน้มขยับตัวไปเฉียดหลัก 2 แสนล้านบาทในปี 2561
ในประเทศ แม้มีกฎหมายห้าม แต่ประมาณว่า กัญชามีราคากิโลกรัมละ 13 บาท ขณะที่ตลาดยุโรป อยู่ที่กรัมละ 200 บาท ในตลาดอเมริกา กรัมละ 600 บาท ในอเมริกาใต้ และแอฟริกา กรัมละ 165 บาท การที่กัญชาไทยมีราคาถูกจะทำให้สามารถทำตลาดไปยังต่างระเทศได้ง่าย เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และจะนำไปสู่การลงทุนใหม่ๆ ในด้านการแพทย์ จึงถึงเวลาที่ไทยจะปลดกัญชาจากยาเสพติดให้เป็นพืชเศรษฐกิจ
นายบัณฑูร นิยมาภา ผู้ก่อตั้งเครือข่ายที่ช่วยรักษาผู้ป่วยด้วยสารสกัดกัญชา” ซึ่งได้ร่วมกับรัฐบาล สปป.ลาว สกัดกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย กล่าวว่า ประเทศไทยต้องสูญเสียผลประโยชน์มูลค่านับแสนล้านบาท หากไม่เปิดให้มีการรักษาด้วยกัญชาอย่างถูกกฎหมาย ทั้งที่กัญชาเป็นพืชที่ปลูกง่าย ขึ้นง่ายในพื้นที่ประเทศไทย
ด้วยมูลค่าสรรพคุณที่มีประโยชน์มหาศาลและมีมูลค่าการตลาดนับแสนล้านบาท น่าจะถึงเวลาที่รัฐบาลไทยต้องเร่งปลดล็อคกัญชาจากยาเสพติด เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่