หลังจากที่ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.เชียงราย ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการร่วมฯ กล่าวถึงปฏิบัติการช่วยเหลือค้นหาทีมนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่พลัดหลงในถ้ำหลวง ภายในเขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย กระทั่งนักดำน้ำชาวอังกฤษ เข้าไปพบทั้ง 13 ชีวิต อยู่ในสภาพปลอดภัย ห่างจากหาดพัทยาไป 400 เมตร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เวลาประมาณ 05.20 น. นายณรงค์ศักดิ์ ได้เดินออกมาจากถ้ำหลวง ก่อนเข้าไปพูดคุยกับญาติทั้ง 13 ชีวิตภายในเต็นท์ จากนั้นได้เดินออกมาคุยกับสื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า การที่เข้าไปเจอทั้ง 13 ชีวิตในครั้งนี้ พบว่าแข็งแรงกว่าที่ประเมินไว้ ตอนนี้ก็ได้นำอาหารเข้าไปให้ทั้งหมดแล้ว
ส่วนวิธีการหลังจากนี้ คือต้องเร่งสูบน้ำออก ก่อนจะค่อยๆ นำทั้ง 13 ชีวิตออกมา ซึ่งวิธีการก็อย่างที่เคยพูดไว้ ต้องมีการฝึกใช้หน้ากาก และให้ทีมซีลเป็นผู้ประเมิน นอกจากนี้ ก็จะมีการส่งแพทย์เข้าไปดูแลเรื่องของสุขภาพ ส่วนจะนำตัวออกมาได้วันไหนนั้น ต้องประเมินอีกที
อย่างไรก็ตาม ภารกิจของเรามี 3 ส่วนคือ ค้นหา กู้ชีพ และส่งกลับ ซึ่งตอนนี้ ภารกิจค้นหาได้ทำสำเร็จแล้ว และไม่ว่าอย่างไร เราก็ต้องนำทั้ง 13 ชีวิตออกมาให้ได้ ให้ได้กลับไปใช้ชีวิตตามที่ควรจะเป็น ไปเรียนหนังสือ ซึ่งเราต้องทำงานแข่งกับเวลา แข่งกับน้ำ เพราะประเมินแล้วว่าสัปดาห์หน้าเราอาจจะเจอฝน แต่วันนี้เรารู้ทางแล้ว วันแรกๆ เรามีแค่ใจกับแรง แต่วันนี้เรามีทรัพยากรเต็มที่ ถึงแม้วันนี้แรงเราอาจจะเหนื่อยล้า แต่อุปกรณ์ครบครัน ซึ่งเราจะต้องนำทั้ง 13 ชีวิตออกมาให้ได้ และน้องๆ ต้องปลอดภัยที่สุดด้วย
ส่วนเรื่องของอาการเจ็บป่วยนั้น ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีใครเจ็บป่วยหรือไม่ แต่เบื้องต้นพบว่าไม่มีอาการอะไรน่าห่วง ซึ่งถ้าจะห่วงคงเป็นเรื่องของปอดกับสายตา
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคใหญ่คือ น้ำ ต้องประเมินว่าจะดับไหน ถึงเอาตัวทั้งหมดอออกมาได้อย่างปลอดภัยที่สุด ซึ่งตั้งแต่ทำงานมา เมื่อวานนี้ถือเป็นวันที่สูบน้ำได้มากที่สุด และเป้าหมายหลัก ตอนนี้ คือ ต้องทำให้น้องกินให้ได้ เพราะน้องไม่ได้กินอะไรมานาน ระบบน้ำย่อยแปรปรวน ซึ่งตนอยากให้เช้านี้ คนไทยทั้งประเทศตื่นมาแล้วเจอกับความสุข
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ยังบอกด้วยว่า ครั้งนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับทีมดำน้ำของอังกฤษที่เข้าไปเจอน้องก่อนเป็นทีมแรก”
หลังจากนั้นทีมซีลไทยก็ตามเข้าไปสมทบ
