วันที่ 21 เมษายน ตำรวจมาเลเซีน ได้รายงานว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายยิง ดร.ฟาดี อัลบัตส์ วิศวกรชาวปาเลสไตน์ ท่อาสัยในกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เสียชีวิต ขณะเดินทางไปละหมาดซุบฮ์ ที่มัสยิดเมดานอีดามัน เมืองกุมบัก กัวลาลัมเปอร์
ตำรวจกัวลาลัมเปอร์ แจ้งว่า มีชายชาวอาหรับถูกยิงจนเสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบหลักฐานพบว่า ชื่อดร.ฟาดี อัลบัตส์อายุ 35 ปี ถูกยิงมากกว่า 10 นัด โดยผู้ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน ขับมอเตอร์ไชค์มาประกบและยิงจนเสียชีวิต
ดร.ฟาดี อัลบัตส์ เป็นวิศกรชาวปาเลสไตน์ ที่มาอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากครอบครัวถูกถล่มจากกำลังอิสราเอลเสียชีวตหลายคน โดยนำภรรยาและลูกเดินทางมาด้วย ซึ่งในเดือนรอมฎอน เขาจะได้รับเชิญเป็นอีหม่ามนำละหมาดตารอเวียะ รวมทั้งเดินสายบรรยายตามสถานที่ต่างๆถึงสถานการณ์ในปาเลสไตน์
มีรายงายว่า กลุ่มที่น่าสงสัยยิงวิศกรชาวปาเลสไตน์ น่าจะเป็นฝีมือของมอสสาด (MOSSA) หน่วยราชการลับของอิสราเอลที่ไม่ต้องการให้มีการเผยแรพ่เรื่องราวในปาเลสไตน์ให้ชาวโลกรับทราบ โดน MOSSAD มีสำนักงานตั้งอยู่รวมกับ IDF(Israeldefend force) ของ เทลอาวีฟ มีพนักงานประจำออฟฟิส 1,200 คน ซึ่งคนพวกนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับหน่วยงานที่เขาสังกัดอยู่เลยพวกนี้ทำหน้าที่เป็น คนถูพื้น คนเก็บขยะ และพนักงานเอกสาร เมื่อเดินไปถามคนเหล่านั้นว่าเขาทำงานให้ใครเขาก็จะบอกว่าทำงานให้IDF และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือมี เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับจริงๆแค่ 30-35 คน !!! เจ้าหน้าที่ MOSSAD จะทำหน้าที่หลักคือประสานงานกับยิวที่อยู่ในเครือข่าย MOSSAD ที่มีอยู่ทั่วโลก ที่เรียกว่า Katsas ซึ่งคนพวกนี้ทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ แทบจะกล่าวได้ว่าที่ใดมียิวที่นั้นก็มี MOSSAD
ทั้งนี้ วิศวกรชาวปาเลสไตน์ มีภรรยา และ 3 คน ในมาเลเซีย การเสียชีวิตของเขาส่งผลให้ภรรยาเป็นหม้ายและบุตรเป็นเด็กกำพร้า