วันที่ 29 กันยายน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่สถานีเคเบิ้ลใต้นำปากบารา อำเภอละงู เพื่อเปิดการใช้งาน พร้อมกับย้ำ โครงการเคเบิ้ลใต้น้ำ เกิดขึ้นเพราะมีการเสนอให้พิจารณาในสมัยที่เป็น หน.คสช.ปี 2557 ที่เสนอมาซึ่งเห็นว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์จึงได้อนุมัติให้ทำ และอยากให้มีการขยายโครงการเคเบิลใต้น้ำโดยจัดทำเป็นแผนระยะยาว สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่ขอให้สร้างความเข้าใจและให้ความรู้กับกลุ่ม ngo และประชาชนในพื้นที่ ที่ลกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตท้องถิ่น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการทำงานภายหลัง โดยการสร้างความเข้าใจต้องทำก่อนที่จะเริ่มก่อนการทำประชาพิจารณ์
สำหรับโครงการระบบเคเบิลใต้น้ำ เป็นเส้นแรกที่ทำให้ไทยมีวงจรเชื่อมต่อโดยตรงไปยังประเทศที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่สำคัญของโลกไปยังประเทศอื่น ๆ ช่วยเสริมศักยภาพให้ไทยเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตของภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมสถานีและห้องปฏิบัติการทำงานของเคเบิ้ล พร้อมสอบถามระบบการทำงาน ก่อนออกเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตาม กำหนดการนายกรัฐมนตรี ต้องขึ้น ฮ.จาก อำเภอละงู จังหวัดสตูล ไปยังอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่ต้องเปลี่ยนมานั่งรถยนต์ แทน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. ขณะที่นั่ง ฮ.ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน มีเฆมมาก อีกทั้งตลอดช่วงภารกิจมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเดินทางกลับกรุงเทพมหานครของนายกรัฐมนตรี ต้องล่าช้าออกไป