วันนี้ (2 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ นายธนสิทธิ์ นิลกำแหง ประธานแผนกคดีเลือกตั้ง เจ้าของสำนวนคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และผู้พิพากษาองค์คณะรวม 9 คน ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.2/2558 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 295 และ 302 จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 รัฐบาลนายสมชายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขอคืนพื้นที่การชุมนุมจากกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปิดล้อมทางเข้ารัฐสภา ภายหลังมีการสลายการชุมนุมโดยมิชอบ ไม่เป็นไปตามหลักสากล กระทั่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้บาดเจ็บ 471 ราย
นายสมชาย อดีตนายกฯ จำเลยที่ 1, พล.ต.ท.สุชาติ อดีต ผบช.น.จำเลยที่ 3 และ พล.ต.อ.ชวลิต จำเลยที่ 2 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.จำเลยที่ 3 เดินทางไปรับฟังคำพิพากษาอย่างพร้อมเพรียง
ขณะเดียวกัน มีประชาชนประมาณ 300 คน แกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช.มาให้กำลังใจ เช่น นายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายอนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีต รมช.คลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรง ไพศาล อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 ท่านได้ประชุมเพื่อทำคำพิพากษากลาง จนเวลา 11.00 น. จึงได้อ่านคำพิพากษา โดยศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง จำเลย1- 4 ทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. โดยระบุว่า ไม่มีเจตนาให้เกิดความสูญเสีย และไม่ได้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ทั้งนี้ เหตุการณ์สลายการชุนนุมพันธมิตรประชาชาเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2552 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 400 คน