วันที่ 19 กรกฎาคม ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา โดยพนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายบรรจง หรือจง ปองพล จำเลยที่ 1 , นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง หรือเสี่ยโต้ง อดีต นายก อบจ.สตูล จำเลยที่ 29 , พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จำเลยที่ 54 กับพวกซึ่งเป็นข้าราชการและพลเรือน เป็นจำเลยที่ 1 – 88 เป็นคดีหมายเลขดำ คม.27 /2558 , คม.28/2558 และ คม.29/2558
คดีนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2558 พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรขาวเขียว ผู้กำกับ สถานีตำรวจภูธรหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับรายงานว่าจะมีการลักลอบขนชาวโรฮิงญามาจากพื้นที่จังหวัดระนองไปยังจังหวัดสงขลา โดยใช้พื้นที่อำเภอหัวไทร เป็นเส้นทางผ่าน จึงได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจสอบ ถนนสาย 408 นครศรีธรรมราช-หัวไทร กระทั่งพบรถยนต์ ต้องสงสัยจำนวน 5 คัน พบว่ามีชาวโรฮิงญานั่งอยู่ท้ายรถกระบะ รวม 98 คน (ผู้ชาย 30 คน ผู้หญิง 26 คน เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี 42 คน) แต่ละคนอยู่ในสภาพอ่อนพลียอย่างหนัก และในจำนวนดังกล่าว พบชาวโรฮิงญาเสียชีวิตเนื่องจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนชาวโรฮิงญาที่รอดชีวิตได้เข้าสู่กระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามประมวลกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
ต่อมาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 กรณีการค้ามนุษย์โรฮิงญา และบังกลาเทศได้กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกเมื่อมีการค้นพบหลุมฝังศพของผู้ถูกลักลอบนำพาเข้าเมือง ถูกฝังไว้ที่เทือกเขาแก้ว ในอำเภอปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา จำนวน 32 หลุม และพบชาวโรฮิงญา หลบซ่อนอยู่จำนวนมากเพื่อรอเดินทางไปมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนสอบหาหลักฐาน ตั้งข้อกล่าวหาต่อจำเลยจำนวน 107 คน เป็นพลเรือน 92 คน ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 คน (ชั้นสัญญาบัตร 3 คนและชั้นประทวน 1 คน) , ทหาร 1 คน , ข้าราชการพลเรือน 1 คน , กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้าน 2 คน , ผู้บริหารท้องถิ่น 3 คน และสมาชิกท้องถิ่น 4 คน , บุคคลสัญชาติเมียนมาร์ 9 คน และบุคคลสัญชาติบังคลาเทศ 4 คน โดยยังสั่งยุติการดำเนินคดีผู้ต้องหา 1 รายที่ได้ถึงแก่ความตายแล้ว ซึ่งผู้ต้องหา 104 ราย ที่สั่งฟ้องนั้น ก็ปรากฏว่าขณะนั้นปี 2558 ยังจับตัวไม่ได้ 32 ราย ประกอบด้วยเป็นบุคคลสัญชาติไทย 24 คน , บุคคลสัญชาติเมียนมาร์ 5 คน และบุคคลสัญชาติบังคลาเทศ 3 คน โดยมีผู้ต้องหา 103 คน รอการพิพากษาวันนี้ 103คน
หลังจากนั้น อัยการได้ทยอยฟ้องจำเลยตั้งแต่ เมื่อเดือน ก.ค.58 ในความผิด 16 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ พ.ศ.2551 , พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ฯ พ.ศ.2546 ภายหลังจากที่ได้มีการโอนคดีจากศาลนาทวี มาพิจารณาคดีที่แผนกคดีค้ามนุษย์ของศาลอาญา เมื่อวันที่ 10 ต.ค.58 ที่ผ่านมา และจากนั้นได้มีการยื่นฟ้องจำเลยอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาร่วมกระทำผิดค้ามนุษย์ที่เป็นเครือข่ายอีกในสำนวนคดีหมายเลข คม.19,32,35,36,40,41,47,63/2558
โดยศาลได้สืบพยานรวม 116 นัด ต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มี.ค.59 เดือนละ 8 วัน โดยไม่มีการเลื่อนคดีหรือยกเลิกนัด ซึ่งโจทก์ สืบพยาน 98 ปาก จำเลย 111 ปาก และพยานเอกสารอีกจำนวนมาก และนัดฟังคำพิพากษาวันนี้