ชีวิตบนดอย ชีวิตที่เปลี่ยน ตามกระแสธารแห่งความทันสมัย

#มุมมองคนนอก มองชีวิต วิถีคนบนดอย
เรื่องราวที่อยากสะท้อนความรู้สึกที่ได้สัมผัส กับวิถีของคนในพื้นที่สูง
ผมได้เดินทางกลับไปทำงานที่ดอยวาวี ภาพที่ผมอยากเห็นก็คงไม่พ้นภาพวิถีความเป็นอยู่ของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่า ๆ สไตล์จีน กำแพงบ้าน หนา ๆ หรือจะเป็นตลาด ซึ่งนับวัน ก็เปลี่ยนรูปแบบไปตามกาลเวลา
วาวีวันนี้เป็นพื้นที่หนึ่งที่ความเจริญได้ก้าวลึกเข้าสู่หุบเขานี้ วิถีการใช้ชีวิตของผู้คน เริ่มเปลี่ยนไป ตามสากลนิยม (ผมยังไม่รู้ว่าคำๆ นี้ เขาใช้อะไรเป็นมารตฐานวัด) ชีวิตบนดอย เหมือนชีวิตเมืองใหญ่ ที่ทุกชีวิต ต้องดิ้นรน เพื่อให้ตนเองอยู่รอด ตึกรามบ้านช่อง เพิ่มขึนเป็นเงาตามตัว บ้านดิน บ้านไม้ เริ่มถูกรื้อถอน เปลี่ยนเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อความมั่นคง โดยเฉพาะปัจจุบันมี ห้างดัง 24 ชั่วโมงมาตั้งกลางหมู่บ้านอันอาจถือได้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้ ร้าน 24 ชั่วโมงเข้าถึงแล้ว

เราหาคำตอบไม่ได้กับความเจริญ ที่นำพาชีวิตผู้คน ต้องอยู่ในสภาวะเช่นนี้ ชีวิตของคนมีความต้องการมากมายนอกจากปัจจัยสี่ กระแสสื่อยุคโลกาภิวัฒน์ ทะลุ ทลวง เข้าทุกพื้นที่ ไม่เว้นแต่ในห้องนอน สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำน้ำอุ่น ตู้เย็น ทีวี ดาวเทียม วิ่งขึ้นไปบริการถึงที่ ถึงมันไม่มา เราก็เสาะแสวงหา มันมาเป็นเจ้าของ ด้วยกับ ค่านิยม คำว่า มันมีหน้ามีตา ไม่มีหนี้ก็ไม่มีหน้า

เด็ก ๆ บนดอย ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อไปเรียนภาษาจีน ที่โรงเรียน จีนที่ดีที่สุด มีผู้คนจากหลายพื้นที่ ส่ง ลูกมาเรียน ภาษาจีน เพราะที่นี่ มีการสอนภาษาจีนถึงมัธยม หก พอเลิกจากโรงเรียนจีน ก็ต้องไปโรงเรียนสามัญภาคภาษาไทยอีก พอตกตอนเย็นก็กลับไปเรียนภาษาจีนอีก หมุนเวียนกันอย่างนี้ ทุกเมื่อเชื่อวัน

คนหนุ่มคนสาวในหมู่บ้านไม่มี เหลือแต่เด็ก กับ คนแก่ เนื่องจากชุมชนไม่มีแหล่งที่จะทำรายได้เลี้ยงดูเขาเหล่านั้น ส่วนใหญ่จะเข้ามายังเมืองหลวง กทม. ด้วยกับคำแนะนำจากเพื่อน ญาติ พี่น้อง บางส่วนก็มุ่งสู่ประเทศใต้หวัน ซึ่งเป็นแหล่ง ทำเงิน แห่งหนึ่งของพี่น้องในแถบนี้ ไม่ว่าจะเป็น วาวี แม่สะลอง

การศึกษาบ้านเรา เหมือนกับผมเคยได้ยินหลาย ๆ ท่านพูดว่า การศึกษาแบบพลัดพราก เพราะจบมาแล้วไม่มีงานทำ ผู้รู้มีอยู่มากมาย แต่ไม่มีงานรองรับ ในพื้นที่ ด้วยกับกระแสดังกล่าวข้างต้น กับจะต้องนำพาชีวิตให้รอด อยู่ได้ยังไงบ้าน เอาอะไรกิน ดูข้างบ้านซิ ลูกเขาไปทำงานที่ใต้หวัน ส่งเงินทอง มาให้พ่อแม่ซื้อรถ สร้างบ้านหลังใหญ่โต ดูบ้านเราซิจะพังมิพังแหล่ ลูกก็รำเรียนมาเยอะ อย่าเลยกับทำไร่ทำสวนปล่อยพ่อแม่ทำเถอะ ไปเถอะลูก เก็บเงินเก็บทอง ไว้มาก ๆ อีกหน่อย เราจะได้สบาย…..

นี่คือวิธีคิดของคน…….. จริงหรือ ที่เราอยู่บ้านแล้วจะไม่มีอะไรกิน จริงหรือ มีเงินมีทองแล้วจะได้สบายมีความสุข จริงหรือ ถ้าไปทำงานนอกบ้านแล้วจะประสบความสำเร็จ ขนแก้วแหวนเงินทอง มาซื้อรถ สร้างบ้าน มีสักกี่คน ที่เขาถึงเป้าหมายตรงนี…. เป็นคำถามนะครับ ตั้งใจจะชวนท่านดูภาพ วิถีชีวิต กดแป้นพิมพ์ ไม่รู้สมองให้สั่งการ ให้ทำไปบ่นไป นี่ก็คงเป็นสัญญานหนึ่ง ที่ความเป็นผู้สุงอายุ เริ่มเยือนเข้ามาแล้ว………

ชุมพล ศรีสมบัติ รายงาน