เอาคืน!ชมรมอิหม่ามฯยื่นถอดถอน กอ.ปทุม 15 คน ระบุใช้จ่ายเงินสนง.”ไม่โปร่งใส”

เอาคืน! อิหม่ามปทุมธานีระดับตำนานตำรงตำแหน่ง 50 ปีอัพ ยื่นหนังสือถอดถอนกอ.ปทุม 15 คน ระบุนำเงินสนง.ไปใช้ไม่ปร่งใส

วันที่ 29 มิถุนายน ชมรมอิหม่ามจังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย นายสุทิน หมุดทอง อายุ 77 ปี เป็นอิหม่ามมาเป็นเวลา 57 ปี นายอดุลย์ มะหะหมัด กรรมการอิสลามประจำจังหวัดปทุมธานี อายุ 53 ปี ได้มอบหมายให้นายชื่อทนาย ธวัชชัย มลศิริ ทนายความเป็นตัวแทนไปยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ให้พิจารณาถอดถอนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปทุมธานี

ในหนังสือขอให้ถอดถอนอ้างฮาดิษ ระบุว่า “โอผู้ศรัทธาทั้งหลายจึงพูดความจริงแม้มันจะขมขื่นก็ตาม” มีรายละเอียดสรุปได้ว่า ได้ติดตามพติกรรมการบริหารงานของคณะกอ.ปทุมธานี จำนวน 15 คน พบว่า มีพฤติกรรมนำรายรับของสำนักงานกอ.ปทุมธานีไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ไม่โปร่งใส ส่อไปในทางทุจริต และผิดบทบัญญัติตามศาสนาอิสลามอย่างชัดแจ้ง จึงขอให้มีการถอดถอนกอ.ปทุมธานีทั้ง 15 คนออกจากตำแหน่ง

ในการยื่นหนังสือมีตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นตัวแทนรับหนังสือ

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ กอ.ปทุมธานีกลุ่มหนึ่งได้ยื่นถอดถอน กอ.ปทุมธานี 6 คน ด้วยเหตุผลว่า ทำให้กอ.ปทุมธานีเสื่อมเสียชื่อเสียง จากการยื่นต่อศาลขอตรวจสอบการใช้งบประมาณของกอ.ปทุมธานี โดยกอ.ปทุมธานี 6 คน ล้วนเป็นผู้อาวุโส นายสุทิน หมุดทอง อายุ 77 ปี เป็นอิหม่าม 57 ปี เป็นผู้บริจาคที่ดินให้ก่อสร้างสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปทุมธานี นายอารมณ์ อาเก็บ อายุ 77 ปี เป็นอิหม่ามมา 50 ปี นายมูฮัมหมัด อาดำ อายุ 78 ปี เป็นอิหม่ามมา 40 ปี นายกาเซ็ม บินมะหะหมุุด อายุ 83 ปี เป็นอิหม่ามมา 51 ปี และนายพายัพ ลาละฮุดดีน อายุ 73 ปี เป็นอิหม่ามมา 52 ปี และนายอดุลย์ หรือบาบอเลาะ มะหะหมัด ซึ่งได้ศึกษาศาสนาที่มักกะห์ เป็นเวลา 19 ปี กับครูลี ไชยา และครูเซ็น สุราษฎร์ เป็นผู้ได้รับอนุญาตจากมัสยิดฮารอมให้ถ่ายทอดวิชาการศาสนาได้

นายอดุลย์ อ้างฮาดิษว่า “ผู้ใดไม่ให้เกชียรติผู้อาวุโส ถือว่า ไม่ใช่ผู้ดำรงอยู่ตามแนวทางของเรา” และมีฮาดิษตอนหนึ่งอีกว่า “มีคนกลุ่มหนึ่งจากมนุษย์ทั้งหลายเข้านรกโดยไม่ทราบเหตุผล ทาามศาสดาถูกถามว่า คนกลุ่มนั้นคือใคร ท่านตอบว่า คือ กลุ่มคนที่มีหัวใจรู้สึกรังเกียจคนอาเล๋มแค่ผงธุลีเท่านั้น”

“แท้จริงสิ่งที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ไม่ยอมเปิดเผยข่อเท็จจริงถือว่า เป็นผู้ทุจริตของส่วนรวม และการทุจริตของส่วนรวมถือว่าหะรอม แม้ว่าจำนวนน้อยนิด และมันเป็นบาปใหญ่ต่องส่งคืนทั้งหมด โดยมติของปวงปราชญ์ทั้งมวล” บาบอเลาะระบุ