วันที่ 27 มิ.ย.) ตามที่มีคลิปชายแต่งกายมุสลิม ใช้อาวุธปืนสงครามยิงขึ้นฟ้า และมีการแชร์คลิปกันในสื่อออนไลน์ในวงกว้าง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมต่อการกระทำดังกล่าว ต่อมาชายในคลิปรายหนึ่งได้ออกมายอมรับในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเป็นบุคคลในคลิปจริง คือ นายอับดุลฮากิม ดาราเซะ ซึ่งเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอบันนังสตา โดยอ้างว่าคลิปดังกล่าวถ่ายเอาไว้เมื่อ 4 ปี ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเอามาส่งต่อให้เพื่อนดูในโลกออนไลน์ จนมีการแชร์คลิปดังกล่าวเป็นวงกว้าง ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ที่ห้องแถลงข่าว ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ในฐานะผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พล.ต.สมพล ปานกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ในฐานะผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากกรณีคลิปดังกล่าวที่มีการเผยแพร่ จากการตรวจสอบพบว่า สามารถยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว คือ นายอับดุลฮากิม ดาราเซะ และพวก ซึ่งเป็นราษฎรในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จากการตรวจสอบเพิ่มเติมก็ยังพบว่า อาวุธที่ปรากฏในคลิป อาจจะเป็นอาวุธที่มีการหยิบยืมบุคคลอื่นมา และบางส่วนได้จัดหามาเอง ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ รวมทั้งตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว
นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากการตรวจสอบคลิปพบว่า บุคคลที่ปรากฏในคลิป 1 ราย คือ นายอับดุลฮากิม ดาราเซะ ซึ่งเป็นสมาชิก อส. ของอำเภอบันนังสตา แต่นายอับดุลฮากิม ปฏิบัติหน้าที่ด้านการข่าว ส่วนภาพที่ออกมาก็ยังไม่แน่ชัดว่าถ่ายไว้นานหรือยัง หรือว่าเพิ่งจะมีการถ่ายเอาไว้ ซึ่งเรื่องนี้ทางจังหวัดได้มีหนังสือด่วนมากไปยังอำเภอบันนังสตา ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเป็นการกระทำของนายอับดุลฮากิม จริง เป็นการประพฤติตัวไม่เหมาะสม ก็จะมีการลงโทษทางวินัย ตามระเบียบของทางราชการ
“ตนเองคิดว่าการกระทำของ นายฮากิม นี้อาจจะทำด้วยความคึกคะนอง หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ก็ได้กำชับอยู่ตลอดเวลาในเรื่องของการใช้อาวุธ ในเรื่องการดูแลรักษาอาวุธ รวมทั้งการยิงปืนในที่สาธารณะ และชุมชน ซึ่งได้เข้มงวดในเรื่องดังกล่าว หากผลการสอบสวนพบว่า นายฮากิม มีความผิดจริงก็จะดำเนินการลงโทษทางวินัยสูงสุด ในเบื้องต้น จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการสอบข้อเท็จจริง” ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าว
ด้าน พล.ต.สมพล ปานกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา กล่าวว่า ตนเองในฐานะดูแลพื้นที่ จังหวัดยะลา ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดในพื้นที่บ้านนันนังกูแว อ.บันนังสตา จ.ยะลา และในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทหารพราน 3314 ในช่วง 23-25 มิถุนายน 60 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีการยิงปืนอย่างในคลิปดังกล่าว
พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับบุคคลที่อยู่ในคลิปอีก 2-3 คน นั้นก็อยู่ในระหว่างการตรวจสอบจาก นายอับดุลฮากิม ว่าเป็นผู้ใด ซึ่งในทางคดีก็จะต้องดูตามพฤติกรรม เช่น อาวุธได้มาอย่างไร ใครเป็นผู้ใช้อาวุธบ้าง ก็จะมีเรื่องของการใช้อาวุธในราชการสงครามในที่สาธารณะ ซึ่งไม่มีอำนาจในการใช้ ซึ่งจะมีกฎหมายดูแลอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ตนเองขอให้พี่น้องประชาชนให้ใช้วิจารณญาณ แยกพฤติกรรมส่วนบุคคลออก เพราะในขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงการใช้อาวุธในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อให้เกิดกระแสความแตกแยกในหมู่ประชาชน
“ซึ่งในเรื่องนี้ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มิได้นิ่งนอนใจ ได้พยายามตรวจสอบอย่างรวดเร็วว่าเป็นผู้ใด และบุคคลทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น กรณีที่เกิดขึ้นถ้าตรวจสอบแล้วพบว่า อาวุธไม่ได้เป็นของทางราชการ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีในเรื่องครอบครองอาวุธสงคราม ที่มีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 5 ปี และถ้ามีการกระทำในพื้นที่พิเศษ โทษก็อาจจะเพิ่มขึ้น และหากเป็นเจ้าหน้าที่ก็จะถูกดำเนินคดีทางวินัยด้วยไม่มีข้อยกเว้น” พล.ต.จตุพร กลัมพสุต กล่าว
สำหรับ อส.อับดุลฮากิม ดาราเซะ นั้น เป็น อส.หรือ อาสาสมัครรักษาดินแดนประจำอำเภอบันนังสตา จ.ยะลา เคยออกปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา และนายเลาะ ตะโล๊ะแว หรือ ผู้ใหญ่บ้านเลาะ ตะโล๊ะแว ซึ่งเป็นทีมงานของผู้กำกับสมเพียร ในการปราบปรามกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่
แต่ภายหลังผู้กำกับสมเพียร เอกสมญา ได้ถูกคนร้ายลอบวางระเบิด และเสียชีวิตลง อส.อับดุลฮากิม ดาราเซะ ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่เช่นเดิม แต่ก็ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามที่จะลอบสังหาร และทำร้ายครอบครัว หรือผู้เกี่ยวข้องกับ อส.ฮากิม มาอย่างต่อเนื่อง จน อส.ฮากิม ต้องสูญเสียผู้เป็นพ่อและแม่ พร้อมทั้งหลาน จากเหตุการณ์ถูกคนร้ายลอบยิงในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังจากนั้น ก็ยังคงมีญาติพี่น้องที่ถูกลอบทำร้ายมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ อส.ฮากิม ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ้อนๆ เพื่อหลีกหนีจากอันตรายที่อาจจะถูกคุกคาม อย่างไรก็ตาม อส.ฮากิม ก็ยังคงปฏิบัติงานในหน้าที่การข่าวให้แก่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่มาโดยตลอด
จนระยะหลัง อส.ฮากิม ดาราเซะ ได้รวมกลุ่มกับเพื่อน อส.ชายแดนใต้ จัดตั้งกลุ่ม อส.ชายแดนใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ คนแก่ ผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือดูแล รวมไปถึง อส.ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ นอกจากนี้ ยังได้ช่วยเหลือเด็กๆ เยาวชน โรงเรียนต่างๆ ที่ห่างไกล กันดาร และยากไร้ ทั้งการนำสิ่งของบริจาคที่ได้รับไปมอบให้ การมอบธงชาติผืนใหม่ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจอันดี จรรโลงความคิดที่ถูกต้องในการรักผืนแผ่นดิน สถานบันชาติ และศาสนาให้แก่เด็กๆ เยาวชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่มีใครได้รับรู้